“อนุดิษฐ์”ปูดพิรุธโครงการ GBAD  940 ล้าน ของ ทอ. ส่อผิดพ.ร.บ.ฮั้วประมูล

26 ก.ย. 2564 | 07:15 น.

“อนุดิษฐ์”ปูดพิรุธโครงการ  GBAD มูลค่า 940 ล้านบาท ของ “กองทัพอากาศ” ส่อผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล พบฝ่าย เสธ.สั่งเร่งรัดให้จบใน 10 วัน หวังปิดจ็อบก่อนสิ้นปีงบประมาณ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ว่า ขณะนี้มีผู้ส่งข้อมูลมาให้ตนตรวจสอบโครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาท ที่มีความพยายามรวบรัดให้จบก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และข้าราชการทหารระดับสูงจะเกษียณอายุราชการ

 

ทั้งนี้ ล่าสุดทราบว่า ได้สรุปผลและได้เอกชนผู้ดำเนินการแล้ว เมื่อ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านั้น มีการล้มการประกวดราคาไปถึง 3 ครั้ง และครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 4 ได้เปลี่ยนวิธีการประกวดราคาจากเดิมที่ใช้การคัดเลือก มาใช้วิธีการเจาะจง โดยอ้างว่าในการประกวดราคาครั้งที่ 3 ที่ล้มไปนั้น มีผู้เข้ายื่นเสนอราคาเพียงรายเดียว

แต่ในข้อเท็จจริงนั้นมีอีก 2 บริษัทที่ยื่นเสนอราคาไม่ทัน เพราะกรรมการจัดซื้อฯ กำหนดเวลาไว้เพียง 14 วัน ทั้งที่ตามปกติโครงการอื่น ๆ ให้เวลา 30 สำหรับบริษัทในประเทศ และให้เวลา 45 วันสำหรับบริษัทต่างชาติ

 

“การประกวดราคาครั้งที่ 4 ผบ.ทอ.อนุมัติให้ซื้อโดยวิธีเจาะจง ทั้ง ๆ ที่การจัดซื้อครั้งที่ 3 คณะกรรมการจัดซื้อฯ ยังไม่ได้เปิดซองเพื่อพิจารณาเชิงเทคนิคของบริษัทใดเลย แล้วเหตุใดจึงเจาะจงกับบริษัทที่มาเสนอราคาทันในครั้งที่ 3 เพียงบริษัทเดียว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เห็นรายละเอียดทางเทคนิคของบริษัทดังกล่าว เว้นเสียแต่มีการเตรียมการกันไว้ล่วงหน้าแล้วหรืออาจเข้าข่ายว่าฮั้ว หรือล็อกกันไว้ก่อนแล้ว”

 

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า จากที่ติดตามการดำเนินโครงการ GBAD มาโดยตลอดเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการหลายจุด ซึ่งส่อไปในทางขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ทั้งการกีดกันเอกชนบางรายไม่ให้เข้าร่วมการประกวดราคา ก็เท่ากับเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย

 

รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการประกวดราคาโดยไม่มีการแก้ไขปรับปรุง TOR ตลอดจนการกำหนดระยะเวลาการยื่นเสนอราคา ที่เมื่อครั้งที่ 3 กำหนดไว้เพียง 14 วัน

นอกจากนั้น ยังพบข้อสั่งการที่อ้างถึงระดับผู้บังคับบัญชาว่า ให้เร่งกระบวนการซื้อให้เสร็จสิ้นภายใน 10 วัน ซึ่งถือว่าผิดปกติและเป็นเป็นไปไม่ได้สำหรับโครงการใหญ่ขนาดนี้วงเงิน 940 ล้านบาท ถือเป็นการรวบรัดเร่งรีบผิดปกติอย่างมาก

 

“กระบวนการที่เกิดขึ้นถือว่าทำผิดขั้นตอน เร่งรัด ไม่รอบคอบ ลักไก่แก้วิธีประกวดราคา ไม่เปิดให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม กีดกันผู้เข้าประกวดราคารายอื่น ๆ กองทัพอากาศและภาครัฐย่อมเสียประโยชน์อย่างแน่นอน และอาจหนีไม่พ้นข้อหาทุจริตคอร์รัปชันด้วย

 

ล่าสุดได้รับการแจ้งมาว่า โครงการ GBAD ที่ลักไก่ปรับเป็นวิธีเจาะจง ได้คัดเลือกเอกชนที่ได้รับงานแล้วเสร็จเมื่อ 23 ก.ย.64 และต้องสรุปให้ ผบ.ทอ.ลงนามภายใน 28 ก.ย.64 เท่านั้น ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อให้ปิดจ็อบทันสิ้นเดือน ก.ย. ที่เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ 2564 และเป็นช่วงที่บิ๊กทหารอากาศบางคนจะเกษียณอายุราชการหรือไม่

 

น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุอีกว่า นอกจาก 3 โครงการที่ ตน และ กมธ.ป.ป.ช.ติดตามตรวจสอบอยู่แล้ว ยังได้รับข้อมูลโครงการขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศ ที่เข้าข่ายไม่ชอบมาพากลอีก 1 โครงการ คือ โครงการดาวเทียมของกองทัพอากาศวงเงินประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งกองทัพอากาศมอบให้ฝ่าย เสธ. เป็นประธานจัดซื้อ และพบว่ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง TOR และหลักเกณฑ์การพิจารณามากกว่า 2 ครั้ง มีการลดเกณฑ์การให้คะแนน Purchase and Development ทำให้กองทัพอากาศเสียประโยชน์ หากนำเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์เดิมคงเห็นความไม่ชอบมาพากลอีกมาก

 

“เรื่องนี้หากปลัดกระทรวงกลาโหมอนุมัติจัดซื้อ และ ทอ.ประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการ อาจมีผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วต้องกลับมาชี้แจงหลายคน และเหตุจากเรื่องนี้ในช่วงโยกย้ายครั้งที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้นายพลในกรมที่รับผิดชอบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโครงการนี้ ต้องถูกส่งออกไปนอกหน่วยในตำแหน่งที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของกองทัพอากาศ” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ