พลิกปูม “ไผ่ ลิกค์” มือประสานภารกิจ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่

25 ก.ย. 2564 | 05:41 น.

พลิกปูม “ไผ่ ลิกค์” นักธุรกิจ 100 ล้าน ทายาท เรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรมต.หลายกระทรวง มือประสานภารกิจ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ลงพื้นที่

กลายเป็นบุคคลสำคัญและน่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับ “ไผ่ ลิกค์" ส.ส.กำแพงเพชร รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)

 

เมื่อที่ประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค ร่วมประชุม มีมติพรรคมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานภารกิจของ บิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ทำได้ดี คุยได้ทุกคน คุยได้ทุกอย่าง คุยแล้วรู้เรื่อง

 

“ได้บอกกับ ส.ส.ไผ่ ว่า ต่อไปนี้ต้องมาช่วยกัน ถ้าไปพร้อมกันอีก ก็ต้องจัดให้ดูเสมอ ๆ ต้องคุยกัน ไม่ใช่ไม่คุย มีความรู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวสื่อมวลชนก็แหย่กันไป แหย่กันมา มันไม่มีอะไร แต่ก็สั่นคลอนเหมือนกัน” นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคมีมติมอบหมายให้ ไผ่ ลิกค์ เป็นผู้ประสานงานดูแลการลงพื้นที่ของ นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องมีส.ส.ไปดูแลให้การต้อนรับทั้งคู่ให้เท่าเทียมเสมอกัน

 

มติของพรรค พปชร.ดังกล่าว มีขึ้นหลังจาก “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ย.64 ที่ผ่านมา มีส.ส.ไปดูแลให้การต้อนรับจำนวนน้อยมาก ราว 10 คน ขณะที่มีส.ส.ไปให้การต้อนรับ “บิ๊กป้อม” ที่ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ากันว่า มีถึง 55 คน

 

ภาพที่ออกมาจึงทำให้ถูกมองว่าเป็นการแบ่งก๊วน “วัดบารมี” กัน ระหว่าง “บิ๊กป้อม” กับ “บิ๊กตู่”

                         ไผ่ ลิกค์

 

หลังพรรค พปชร.มีมติมอบหมายให้ “ไผ่ ลิกค์” รับภารกิจดังกล่าว เขาก็ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที ด้วยการประสานส.ส.ให้ไปร่วมต้อนรับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ รวมถึงเตรียมต้อนรับ “นายกฯ” ที่จะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 29 ก.ย. และ จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 1 ต.ค.นี้

 

พลิกปูม “ไผ่ ลิกค์”

 

สำหรับ ไผ่ ลิกค์ เกิดเมื่อวันที่  20 เม.ย. 2521 ปัจจุบันอายุ  43 ปี

 

เป็นบุตรของ เรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง อดีตส.ส.กำแพงเพชร 8 สมัย กับ ปราณี โชติรัชต์กุล มีน้องชาย คือ ภูผา ลิกค์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ (เลขาฯ ร.อ.ธรรมนัส รมช.เกษตรฯ ตอนที่ยังไม่ลาออก)

 

ไผ่ ลิกค์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

 

นักธุรกิจ 100 ล้าน

 

หลังจบการศึกษา ไผ่ ลิกค์ ได้เข้ารับช่วงสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว

 

ถือเป็นนักธุรกิจระดับร้อยล้าน ที่เข้ามาสืบทอดงานธุรกิจจำนวนมากของครอบครัว อาทิ ธนะสินสนุกเกอร์ , ตลาดสดธนะสิน, ธนะสินหัตถเวช, อาคารไผ่ภูผา, หมู่บ้านธนะสิน, สนามไดรฟ์กอล์ฟ ธนะสิน, บริษัท ไผ่ภูผา จำกัด, และบริษัท เพชรภูผา อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองแร่หิน

 

แต่ด้วยความที่ชอบเครื่องจักรและยานยนต์มาตั้งแต่เด็ก จึงได้คิดเริ่มขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์และเต๊นท์รถมือสอง

 

ไผ่ ลิกค์ มีอีกชื่อที่เรียกกันคือ "ไผ่ วันพอยท์" เพราะปรากฏชื่อเข้าร่วมการแข่งขันอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาหลายรายการ  ไม่ว่าจะเป็นรายการแข่งเซอร์กิต, แดร๊ก, ดริฟท์ หรือ ยิมคาน่า โดย ไผ่ ลิกค์ เป็นหนึ่งในนักแข่งของทีมวันพอยท์ จึงเป็นที่มาของฉายา “ไผ่ วันพอยท์”

เส้นทางบนถนนการเมือง

 

สำหรับ “บนถนนการเมือง” นั้น ปัจจุบัน ไผ่ ลิกค์ เป็น ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1

 

ก่อนหน้านั้น หลังจากที่ เรืองวิทย์ ลิกค์ บิดาของเขา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองพร้อมกับกลุ่ม “บ้านเลขที่ 111”  ไผ่ ลิกค์ จึงถูกวางตัวให้เป็น “ทายาท” ลงสมัครส.ส.เป็นครั้งแรกในปี 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

 

ก่อนที่ในปี  2554 เขาลงสมัครส.ส.กำแพงเพชร อีกครั้ง และได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ด้วยการ เอาชนะ สุขวิชชาญ มุสิกุล บุตรชาย ปรีชา มุสิกุล จากพรรคประชาธิปัตย์

 

เมื่อได้เป็นส.ส.สมัยแรก ไผ่ ลิกค์ ได้รับการเสนอให้ดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร

                           ไผ่ ลิกค์ ขณะหาเสียงเลือกตั้ง

ต่อมาเมื่อวัน  24 พ.ย.2561 ไผ่ ลิกค์ ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา เขาก็ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.กำแพงเพชร สมัยที่ 2

 

และเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2562 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรค

 

นักแข่งรถ-นักรัก

 

ด้วยความที่เป็นเศรษฐี นักธุรกิจระดับร้อยล้าน แน่นอนว่า ไผ่ ลิกค์ ย่อมเป็นหนุ่มเนื้อหอม สำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ “เหล่าดารา” ทั้งหลาย

 

ไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพอยท์ ได้ปรากฏมีข่าวคบหาดูใจกับสาวมากหน้าหลายตาอยู่เป็นประจำ ถึงขนาดที่มีดาราสาวบางคน เคยมีข่าวแย่ง ไผ่ วันพอยท์ มาแล้ว ทั้ง หยาดทิพย์ ราชปาล ที่ไปเกาะขอบสนามแข่งรถเพื่อเชียร์ไผ่

                           ไผ่ ลิกค์ กับ เพื่อนสาว

และจากนั้นก็มีข่าวว่า ไผ่ วันพอยท์ ตามจีบ แป้ง อรจิรา แหลมวิไล ซึ่ง แป้งเอง ก็ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว พร้อมกับบอกว่า ไผ่ วันพอยท์ เป็นเพียงรุ่นพี่เท่านั้น

 

นอกจากนั้น ไผ่ วันพอยท์ ยังได้คบหากับ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดงชื่อดัง และมีภาพโผล่ออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ก็เกิดเรื่องราวที่ทำให้ทั้ง ไผ่ และ ดิว เกิดความระหองระแหงกันอยู่ไม่น้อย

 

ความสัมพันธ์ไผ่ - วัน อยู่บำรุง

 

ช่วงเดือน พฤษภาคม 2559 ในสังคมออนไลน์มีการพูดถึงกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายวัน อยู่บำรุง บุตรชายคนรอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “แก๊งวันพอยท์ชักจะใหญ่โตกันใหญ่แล้วนะอยากรู้จังว่าโตทันวันเหลิมกันมั้ย!!!ปล.ไอ้เด็กที่มาหาเรื่องลูกผมมันบอกว่าอยู่แก๊งค์นี้ ไผ่ ลิกค์ กำแพงเพชร”

 

ขณะที่เฟซบุ๊กของนายวัน อยู่บำรุง ได้โพสต์ภาพจากเฟซบุ๊กเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่แสดงความไม่พอใจ และด่าบุตรชายของตน  โดยระบุว่า “ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงทำตัวเป็นนักเลงกันจังเลย…ไอ้หนูเอ๊ย…ระวังพ่อแม่จะเดือดร้อนนะลูก ลูกผมไม่ใช่นักเลงแต่ถ้าใครมารังแกลูกผม #ผมไม่ยอม!!!”

 

สำหรับบุตรชายของนายวัน อยู่บำรุง นั้นคือ “กาโม่” นายอาชวิน อยู่บำรุง

 

ส่วนกลุ่มที่มีปัญหาคือ ไผ่ วันพอยท์ นั้น เป็นชื่อในวงการของ นายไผ่ ลิกค์

                        พลิกปูม “ไผ่ ลิกค์” มือประสานภารกิจ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่

 

จากนั้นไม่นานทั้ง วัน อยู่บำรุง และ ไผ่ วันพอยท์ ได้ลงรูปคู่กันในโซเชียลมีเดียส่วนตัว สยบข่าว 2 กลุ่มผู้มีอิทธิพลเตรียมปะทะกันจากกรณีการทะเลาะวิวาท โดยนายวัน อยู่บำรุง ที่เข้าไปเคลียร์ปัญหา ให้กับนายอาชวิน อยู่บำรุง หรือ กาโม่ ลูกชาย จนลงมือทำร้ายร่างกาย ยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ นายภานุวัฒน์ ปุณณรัตนกุล หรือ อั๋น กลางลานจอดรถขอบสถานบันเทิง ซอยทองหล่อ 10 เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา

 

โดย นายวัน ได้เข้ามอบตัวที่กองบังคับการปราบปรามตาม ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนถูกฝากขัง ศาลอาญา รัชดาภิเษก อนุญาตให้ประกันตัวใน วงเงิน 300,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข

 

ทั้งนี้ วัน อยู่บำรุง ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "วัน อยู่บำรุง"  เป็นภาพที่ไผ่ วันพอยท์ หอมแก้มวันเฉลิมที่ยกนิ้วโป้งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมข้อความจบดราม่าแบบสั้นๆว่า  "จบข่าวสั้น...เข้าใจตรงกันนะ ‪#‎ใจถึงพึ่งได้"

 

ขณะเดียวกัน ไผ่ วันพอยท์ ก็ได้โพสต์ภาพเดียวกันในอินสตาแกรม @paionepoint พร้อมข้อความจบดราม่าเช่นเดียวกันว่า "รู้เรื่อง นะคับ พี่คือพี่"

 

พัวพันปมรถหรู

 

สำหรับวีรกรรมที่น่าสนใจของ ไผ่ ลิกค์ นั้น ช่วงเดือน ก.พ.2560 เขาตกเป็นข่าวพาดหัวใหญ่หนังสือพิมพ์หลายฉบับ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เชิญตัวเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มารถ ลัมโบร์กีนี อะเวนตาโดร์ คันต้องสงสัย ที่ ไผ่ ลิกค์ ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นนายหน้ากับเพื่อนประสานให้ผู้ซื้อมาดูรถคันดังกล่าว

 

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2560 ไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพอยท์ นักธุรกิจชื่อดัง และลูกอดีตนักการเมือง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดยอ้างว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หลังปรากฏเป็นข่าวเชื่อมโยงปมรถลัมโบร์กีนี ของ นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง และ นายณัฐพล หรือ บอย

 

โดย ไผ่ ลิกค์ กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ปส. ว่า เมื่อนานมาแล้วหลายปี จำไม่ได้ว่าเมื่อใด เพื่อนได้ติดต่อมาเพื่อขอให้ช่วยดูรถลัมโบร์กีนีให้แก่ นายบอย ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนตนอีกต่อหนึ่ง ส่วนที่มาปรึกษาเพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ จึงมีความรู้และทักษะสามารถช่วยดูช่วยเลือกได้

 

“ผมไม่รู้จักนายเบนซ์ กับนายบอย เป็นการส่วนตัว เพื่อนที่มาด้วยกันขายรถอยู่แล้ว โดยได้สอบถามว่า หารถคันนี้ได้ไหม ซึ่งไม่ใช่คันแรก เพราะหามา 2-3 คันแล้ว และเขาก็มาซื้อคันนี้ เรื่องนี้เพราะอาจจะอยู่ที่คนแนะนำมากกว่า จึงมีการไปดึงรถมาจากเจ้าของเต้นท์รถ เนื่องจากเจ้าของเชื่อในเครดิตผม"

 

เมื่อถามว่าใครที่เป็นคนประสานมาให้หารถให้ ไผ่ ลิกค์ กล่าวว่า เพื่อนเป็นคนบอกมาให้ช่วยหารถ โดยเพื่อนน่าจะรู้จักกับ นายบอย และในวันนี้เพื่อนได้เดินทางมาเข้าให้ข้อมูลพร้อมกัน ส่วนตัวได้พูดคุยผ่านเพื่อนเท่านั้น จึงขอยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ นายบอย และนายเบนซ์ แต่เขาใช้เครดิตให้ช่วยหารถ และตรวจดูว่าเคยซ่อม หรือชนมาบ้างหรือไม่

 

ส่วนที่ถามว่าเคยเจอกับบอยเป็นการส่วนตัวหรือไม่นั้น เจอกับนายบอยในวันที่ไปดูและซื้อรถ แต่ไม่เจอนายเบนซ์ ซึ่งจำไม่ได้ว่าช่วงไหนเพราะนานมาแล้ว โดยได้ดูรถมาก่อนประมาณ 2 คัน ก่อนที่จะมาจบที่รถลัมโบร์กีนีคันดังกล่าว ซึ่งซื้อในราคา 14 ล้านบาท รถที่ซื้อเป็นรถติดไฟแนนซ์ จึงต้องเปลี่ยนสัญญาไฟแนนซ์ก่อน โดยใช้เงินดาวน์ 5-6 ล้านบาท

 

นายไผ่ กล่าวด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อมา เพื่ออยากให้เข้ามาเป็นพยาน ซึ่งได้ตอบตกลง แต่ไม่ได้เตรียมเอกสารหลักฐานอะไรมา เพราะไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และขอพูดตรงๆ ว่า วันนั้นนายบอย บอกว่า ต้องการดูรถให้เพื่อน ซึ่งไปจบการซื้อขายกันที่เต้นท์รถเอกบรูโน่ที่ย่านพระราม 3 (BUONO AUTO CLINIC) ยืนยันว่าเป็นเพียงตัวตัวกลางที่แนะนำ และรู้จักกับเจ้าของเต้นท์รถ เพราะเล่นรถซุปเปอร์คาร์ด้วยกัน แข่งรถอยู่ในวงการนี้ด้วย ส่วนตัวขับรถซุปเปอร์คาร์มาตั้งแต่เด็ก เรื่องจริงเรารู้อยู่แล้วว่า เป็นอย่างไร ไม่ได้เกี่ยวข้อง และทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายรถอยู่แล้ว

 

ไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพอยท์ เคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่า “แม้รถคันตามข่าวจะมีการเปลี่ยนมือกัน แต่ผมก็ยังไม่ได้รับค่านายหน้าหรือผลประโยชน์ใดใดตอบแทนแม้แต่น้อย สามารถตรวจสอบได้ ผมเพิ่งรู้จักชื่อนายไซซะนะ และทราบว่ารถยนต์คันนี้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับขบวนการฟอกเงินและการค้ายาเสพติด ก็เป็นเวลาเดียวกับคนทั้งประเทศในเวลานี้"

 

สำหรับ นายไซซะนะ ที่ ไผ่ ลิกค์ พูดถึงนั้น หมายถึง นายไซซะนะ แก้วพิมพา สัญชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนะ นำเข้ายาบ้า จำนวน 1.2 ล้านเม็ด เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2562 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตะ แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

แม้ นายไซซะนะ จะยื่นฎีกา แต่ศาลฎีกาก็มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ผลคำพิพากษาจึงถึงที่สุดและเป็นไปตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต

 

ไผ่ ลิกค์ มือประสานภารกิจ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ในการลงพื้นที่ มีกระแสข่าวว่า เขาเป็นหนึ่งที่อยู่ในข่ายถูกเสนอเพื่อพิจารณาเป็นเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ หากมีการปรับ ครม.

 

แต่จะก้าวไปถึง “เก้าอี้รมต.” หรือไม่ น่าติดตาม...