วิกฤตโควิดทำให้ตาสว่าง หมอจุฬาฯแนะนำสิ่งดี-ถูก-เร็วสุดทุกประเทศมาใช้

21 ก.ย. 2564 | 01:04 น.

หมอธีระวัฒน์ชี้วิกฤตโควิด-19 ทำให้ตาสว่าง แนะดูรอบตัวทุกประเทศ นำสิ่งที่ดีที่สุด ถูกที่สุด เร็วที่สุด มาปรับแต่งเข้ากับบริบทและสถานการณ์ของประเทศไทย

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า
วิกฤติโควิดทำให้ตาสว่าง
หมอดื้อ
พื้นฐานที่ดี การปรับตัวฉับไว การบริหาร
เราตาสว่าง หรือยัง จากการดูรอบตัวทุกประเทศ นำสิ่งที่ดีที่สุด ถูกที่สุด เร็วที่สุด มาปรับแต่งเข้ากับบริบทและสถานการณ์ของประเทศไทย และหลีกเลี่ยงไม่ทำตามสิ่งที่คนอื่นและเราเองผิดพลาดและทำซ้ำอีก
จีน 
เช่น ตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด ใช้คอมพิวเตอร์ซีทีตรวจปอดบวมและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แยกโควิดจากเชื้ออื่น เนื่องจากโรงพยาบาลทุกแห่งตรวจพีซีอาร์ไม่ได้ในระยะแรก แต่มีเครื่องซีทีทุกโรงพยาบาล แต่แล้วในเวลาไม่นานตรวจพีซีอาร์ 100 ล้านคนในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน
หมอจีนชอบเก็บงำข้อมูลในการรักษาจะไปตีพิมพ์ในวารสารตะวันตก ทางการสั่งให้เปิดเผยและรวบรวม จนกระทั่งได้กระบวนการวิธีการรักษาเผยแพร่เป็นภาษาจีนก่อนทั่วประเทศ และปรับปรุง ฉบับที่หนึ่งถึงเจ็ดภายในไม่กี่เดือนและควบรวมการใช้สมุนไพรที่มีการใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว 

รายงานกระบวนการใช้สมุนไพรขณะปรากฏอยู่ในวารสารตะวันตกแล้ว
การฉีดวัคซีนเชื้อตายจนขณะนี้มากกว่า 777 ล้านคน และยอมรับว่าครอบคลุมเชื้อวาเรียนท์ ได้ไม่หมด พัฒนาเทคโนโลยีวัคซีนได้ทุกชนิดรวม mRNA และแบบแอสตร้าเซนเนก้า และแบบโปรตีนย่อย และอื่นๆใช้ควบรวมกับเชื้อตายและใช้เชื้อตายที่มีความปลอดภัยกว่าในเด็กตั้งแต่สามขวบเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน จากนั้นตามด้วยเทคโนโลยีอื่น และ 1,400 ล้านคน จะได้วัคซีนครบในสิ้นปี 2564 รวมกับมียารักษานานาชนิด
จีนมึความเข้าใจในการระบาดของโรค ถ้าคุมไม่ได้ในฉับไว จะนำไปสู่ไวรัสที่ร้ายกาจมากขึ้น และเป็นที่มาของการต้องคัดกรองแยกตัวรักษาทันทีและวัคซีน ควบวินัย ซึ่งต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
และเป็นที่ยอมรับ ดังเช่น รายงานจากคณะผู้วิจัยตะวันตกเองในวารสารเนเจอร์ ปลายเดือนกรกฎาคม 2564 และnature review genetics การที่มีไวรัสกลายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นอัลฟา เบต้า เดลตาในพื้นที่ จะเป็นเสมือนแหล่งโรงงาน เพื่อให้มีการผ่าเหล่าต่อ แม้ว่าในพื้นที่นั้นจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นแล้วก็ตามทั้งนี้ไวรัสต้องการรักษาสถานะความฟิต เพื่อจะได้แพร่กระจายต่อ และตื้อต่อภูมิคุ้มกันเดิมที่มนุษย์มีอยู่
อินเดีย
เช่นควบคุมการตายอย่างมโหฬารภายในสองเดือนใช้ยาฆ่าพยาธิตั้งแต่นาทีแรกที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงว่าจะติดเชื้อ ประกาศใช้ทั่วประเทศ
มีการพัฒนาปรับปรุงยาที่มีอยู่แล้วและพบมีสรรพคุณต้านการอักเสบและต้านไวรัสเช่นการใช้ 2 deoxy glucose ที่ใช้ในโรคมะเร็งมีความปลอดภัยและประกาศใช้ทั่วประเทศ
ประเทศที่มีรายได้ไม่มาก อย่าง กรีซ คิวบา และอื่นๆ ใช้กรอบกระบวนความคิดไม่รอทำตามตะวันตกทุกอย่าง ฝ่าฟันอุปสรรค ในทรัพยากรจำกัด

เรามีสมุนไพรที่ดี เราดึงการฉีดเข้าชั้นผิวหนังที่มีความปลอดภัยกว่ามาใช้ได้ ใช้ปริมาณวัคซีน<ทำให้ 1 ล้านโดส จะกลายเป็น 5-10 ล้านโดสได้ทันที แล้วแต่ชนิดของวัคซีน
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19)ในประเทศไทย วันที่ 21 กันยายน 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 10,919 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,497 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 422 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,471,242 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 143 ราย หายป่วย 11,694 ราย กำลังรักษา 131,655 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,325,412 ราย