หนุนแบงก์ เข้า QAB ไทย 1ธนาคาร-มาเลเซียอีก2

14 ก.ย. 2564 | 09:11 น.

ธปท. และ BNM หนุนแบงก์เข้าQAB ไทย 1 ธนาคาร-มาเลเซียอีก 2ธนาคารเพื่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน -เสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินคุณภาพสูง-หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศ

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia: BNM) ได้เปิดรับสมัคร  ความร่วมมือในภาคการธนาคารอาเซียน Qualified ASEAN Bank (QAB) สำหรับธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียและสัญชาติไทยที่สนใจ ซึ่งเป็นไปตามความตกลง QAB ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ภายใต้กรอบการรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (ASEAN Banking Integration Framework: ABIF) และเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Financial Agreement on Services: AFAS)

          การจัดตั้ง QAB มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ซึ่งเป็นไปตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 ในการสร้างเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยกำหนดคุณสมบัติของ QAB เพื่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้ง ว่าจะต้องมีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศตน และปฏิบัติได้ตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้ง ซึ่ง QAB ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อผูกพันของประเทศคู่เจรจา

          

ความตกลงทวิภาคีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การรวมตัวภาคการเงินอาเซียนตามกรอบ ABIF  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ธปท. และ BNM ได้เปิดตัวนวัตกรรมด้านการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรก

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า “ความตกลงทวิภาคีในการจัดตั้ง QAB นี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย และสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของอาเซียนในการรวมตัวภาคการเงินของภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

การจัดตั้ง QAB ดังกล่าวจะนำมาซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีคุณภาพสูงและหลากหลาย ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น ธปท. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นบทบาทของ QAB ในการช่วยต่อยอดความร่วมมือด้านการเงินระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ในภูมิภาค”

 

Ms. Nor Shamsiah Yunus ผู้ว่าการ BNM กล่าวว่า “ความตกลงระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แน่นแฟ้น และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศในการเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย

 

BNM กำลังเดินหน้าที่สำคัญในการเข้าสู่การสร้างเศรษฐกิจอาเซียนที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าความตกลง QAB นี้จะนำมาซึ่งการสร้างโอกาสทางธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ อันจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19”

 

หนุนแบงก์ เข้า QAB ไทย 1ธนาคาร-มาเลเซียอีก2

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. ได้บรรลุผลการเจรจา Qualified ASEAN Bank (QAB) กับธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia: BNM) โดย ธปท. พร้อมรับสมัครธนาคารพาณิชย์รายใหม่สัญชาติมาเลเซีย รวมถึงให้ความเห็นชอบธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียที่ประกอบธุรกิจในปัจจุบัน ได้รับสิทธิประโยชน์ตามผลการเจรจา

          QAB เป็นหนึ่งในการรวมตัวภาคการเงินตามแผนงานจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint) ซึ่งการรวมตัวของภาคการเงินผ่านบทบาทของธนาคารในภูมิภาคจะมีบทบาทช่วยสนับสนุนภาคเศรษฐกิจจริงเพื่อรองรับการค้าการลงทุนในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอาเซียนได้สรุปผลเจรจา QAB แล้วทั้งหมด 3 คู่ ซึ่งเป็นการเจรจาแบบทวิภาคีตามความพร้อมของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย-อินโดนีเซีย มาเลเซีย-ไทย และ มาเลเซีย-ฟิลิปปินส์

          สำหรับผลการเจรจา QAB ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ทั้งสองประเทศได้ตกลงให้สิทธิประโยชน์ตามหลักการต่างตอบแทน ด้วยการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แก่ธนาคารพาณิชย์ที่มีสัญชาติของอีกฝ่ายไม่เกิน 3 ราย โดยให้นับรวมธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในปัจจุบันด้วย

หนุนแบงก์ เข้า QAB ไทย 1ธนาคาร-มาเลเซียอีก2

ในกรณีของประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียรายใหม่จะสามารถจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (Subsidiary) ในฐานะ QAB สัญชาติมาเลเซียในประเทศไทยได้เพิ่มอีก 1 ราย เนื่องจากปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยอยู่แล้ว 2 ราย ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคาร อาร์ เอช บี

ขณะที่ธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยรายใหม่จะสามารถจัดตั้ง Subsidiary ในฐานะ QAB สัญชาติไทยในประเทศมาเลเซียได้เพิ่มถึง 2 ราย เนื่องจากปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจในประเทศมาเลเซียอยู่แล้ว 1 ราย คือ บางกอก แบงค์ เบอร์ฮาด

          ธปท. หวังว่า QAB จะช่วยต่อยอดให้เกิดความร่วมมือของภาคการเงินในระดับภูมิภาค และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินและยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการทางเงิน รวมถึง ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนได้สะดวกยิ่งขึ้นในอนาคต