"ศักดิ์สยาม" จ่อฟ้องส.ส.เต้ กล่าวหาต้นตอแพร่โควิด

วันที่ 3 กันยายน 64 เวลา 14.00 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงภายหลัง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์อภิปรายไม่ไว้วางใจในกรณีที่มีการกล่าวหาตนเป็นรัฐมนตรีเสเพล ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมควบคุมโรค และเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปทั่วประเทศจนถึงปัจจุบันนั้น ว่า การที่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวหาว่าตนประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งมีพฤติกรรมเสเพล โดยการนำภาพตนที่นั่งรับประทานอาหาร หรือร้องเพลงอยู่ มาบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือพฤติกรรมเสเพล นั้น การที่คนหนึ่งคนจะมีเพื่อน จะมีน้อง แล้วไปพักผ่อนบ้างในเวลาที่ไม่ใช่เวลาราชการ และเป็นในช่วงที่ไม่ได้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่าเสเพล

“ภาพที่ท่านนำมาแสดงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 20.00 น. เกี่ยวข้องอย่างไรกับการแพร่ระบาดของโควิด ในเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ท่านไปเอาภาพมาปะติดปะต่อเพื่อที่จะสร้างเรื่องให้คนเข้าใจผิด ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ต่างหาก ถ้าจะกล่าวหาท่านน่าจะเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าท่านบิดเบือนข้อมูล จากภาพที่เห็น ผมแม้ไม่ไว้อยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดก้พยายามที่จะป้องกันโดยการสวมแมส และการไปทานอาหารผมคิดว่าร้านอาหารที่ผมไปทาน ท่านสมาชิกหลายท่านก็เคยไป ซึ่งผมคิดว่าร้านอาหารที่ไปทานใช่ว่าไปทานแล้วต้องผิดกฎหมาย แล้วสิ่งที่ผมทานในวันนั้นคือเครื่องดื่มนมเย็น ถ้ากินนมเย็นแล้วเสเพลผมก้ไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไร ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนไปในที่ที่มีสุภาพสตรีอยู่ในสถานที่เช่นร้องเพลงในร้านคาราโอเกะ ต้องเรียนว่าความจริงแล้วตนก็เคยไป แต่ไม่เคยไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดแน่นอน เป็นเรื่องปกติของผู้ชายคนหนึ่งที่มีสถานภาพโสด แล้วพักผ่อนในเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติราชการ มองว่าเป็นเรื่องปกติคนจะไปร้องเพลงไปหัดร้องเพลงผิดตรงไหน เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ชนใดไม่มีดนตรีกาล ส่อสันดานอะไร แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรที่ดูรุนแรง”

นายศักดิ์สยาม กล่าวีอกว่า งานดังกล่าวสุภาพสตรีที่ถูกพาดพิง ได้ชี้แจงข้อเท้จจริงไปแล้วหลังจากที่มีการเสนอข่าวให้สุภาพสตรีท่านนั้นเสียหาย ความจริงแล้วเป็นรุ่นน้องที่เชิญตนไปในงานเลี้ยงสละโสด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดงานแต่งงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 ซึ่งตนก็ได้ไปร่วมงานดังกล่าวด้วย 

“การที่ใช้คำว่าเสเพลกับผม ผมก็ต้องตั้งคำถามว่า เคยเปิดพจนานุกรมดูไหมว่าคำว่าเสเพลหมายถึงอะไร มายถึงว่าไม่เอาการเอางาน ผมตั้งเรียนว่าตลอดเวลาที่ผมปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ผมได้ให้หัวหน้าสำนักงานนายกรัฐมนตรีได้ตรวจว่าผมทำอะไรไปบ้าง โดยใช้วิธีตรวจจากกูลเกิ้ลง่ายๆ ก็มีข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอยู่ ประมาณ 200 ข่าว เป็นเรื่องงานประมาณ 50 โครงการ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติมากว่า 700 วัน ที่ดำรงตำแหน่ง” นายศักดิ์สยาม กล่าว 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่สอง ที่ผู้อภิปรายกล่าวหาว่าตนเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วประเทศ จากคลัสเตอร์สถานบริการ นั้น ตนได้ทำหนังสือสอบถามข้อมูลการแพร่ระบาดโควิด-19 ของคลัสเตอร์สถานบันเทิง ไปยังอภิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้นทางกรมฯ ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า นายศักดิ์สยาม ไม่ได้เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วประเทศในปัจจุบัน เนื่องจาก 14 วันก่อนป่วย ไม่พบประวัติว่า นายศักดิ์สยาม เดินทางไปยังสถานบริการบันเทิงย่านทองหล่อ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดระลอกเดือนเมษายน 2564 เป็นปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 และไม่พบว่าเป็นสาเหตุของการติดเชื้อของนายศักดิ์สยาม แต่การติดเชื้อมาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 ขณะปฏิบัติงาน 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ตนมีหนังสือยืนยันจากกรมควบคุมโรค นอกจากนี้กรมฯ ยังได้ทำไทม์ไลน์ของการแพร่ระบาดโควิดในสถานบันเทิงพื้นที่กรุงเทพฯ มาให้ด้วย ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากคลัสเตอร์สถานบริการเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2564 พบว่ามีบุคคลสำคัญทางการทูตได้ออกมาให้ข่าวว่าไปติดโควิดจากสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ มา หลังจากนั้น ตนได้รับการตรวจเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 และพบว่ามีการติดเชื้อโควิด หลังจากนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้แจ้งว่าได้ไปเที่ยวมาจึงเป็นเหตุให้ ตนติดเชื้อจากทราบผลก็ไปกักตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดบุรีรัมย์ทันที และได้รักษาตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังจากนั้น ก็ออกมากักตัวอยู่ที่บ้านที่บุรีรัมย์อีก 14 วัน จนหายขาด และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ 

“การที่กล่าวหาว่าผมเป็นต้นเหตุของการแพร่กระจายของโควิดไปทั่วประเทศนั้น ผมได้นำหลักฐานเพื่อมายืนยันว่าผมเป็นคนแพร่เชื้อหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 16 เมษายน 2564 ทางพรรคภูมิใจไทยได้จัดงานทำบุญวันก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็ไม่ปรากฎว่าหลงจากการจัดงานมีท่านใดติดเชื้อเลย  นั่นแสดงว่าผมไม่ได้แพร่เชื้อใส่ใคร ทั้งนี้เพียงอยากบอกว่าการที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยกล่าวหา โดยใช้หลักฐานอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่น่าจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีในการดำเนินการเรื่องแบบนี้ เพราะสภาแห่งนี้นั้นเป็นสภาที่ทรงเกียรติ เราควรจะเอาเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมาใช้ และเรียนว่าขณะนี้ผู้ที่กล่าวหาเรื่องดังกล่าว มีคดีฟ้องร้องกับผมอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ หลังจากปิดสมัยประชุมกรุณาไปพิสูจน์ความจริงด้วย อย่ามัวแต่ใช้โซเชียล” 

หลังจากสิ้นสุดการอภิปราย มงคลกิตติ์ ได้ถามคำถามาทิ้งท้ายว่าเหตุใดที่กระทรวงคมนาคมถึงมีผู้ติดเชื้อถึง 1,943 ราย เสียชีวิต 19 ราย เพราะในช่วงที่ นายศักดิ์สยามติดเชื้อ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ก่อนหน้านี้วันที่ 3-5 เมษายน นายศักดิ์สยามยังปฏิบัติงานที่กระทรวงคมนาคมอยู่ นั้น นายนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การติดเชื้อในกระทรวงคมคมนั้น ต้องชี้แจงว่ากระทรวงฯ มีบุคลากรกระจายอยู่ทั่วประเทศ ข้อมูลที่ผู้ถามได้มาก็คือจำนวนของทั้งประเทศ สำหรับหน่วยงานที่ตนทำงานด้วย คือที่สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไม่มีผู้ติดเชื้อ