FINNIX ชูดอกเบี้ย 2.75%ต่อปีรุกนาโนไฟแนนซ์

02 ก.ย. 2564 | 05:53 น.

FINNIX แอปเงินกู้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ตั้งเป้าสิ้นปีแตะ 5,000ล้านบาท หวังพัฒนาบริการทางการเงินถูกกฎหมายเปิดโอกาสผู้กู้สู่ระบบและรักษาเครดิต

FINNIX รุกนาโนไฟแนนซ์ ชูจุดแข็งประเมินความเสี่ยงครอบคลุม แม่นยำ ด้วยระบบAI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เผยเฟ้นลูกค้าผ่านอนุมัติ25%ที่เหลือ 75%รีเจ็ก พร้อมเดินหน้าพัฒนาฟีเจอร์-ส่งเสริมคนรักษาเครดิตทางการเงิน

FINNIX ชูดอกเบี้ย 2.75%ต่อปีรุกนาโนไฟแนนซ์

นางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ กับAbakus Group ฟินเทคยูนิคอร์นจากจีน  กล่าวว่า จากผลข้อมูลผู้ประกอบการอาชีพอิสระกว่า 36 ล้านคน ส่วนหนึ่งคือ 28ล้านคนประกอบอาชีพอิสระ ไม่มีหลักฐานทางการเงิน และประมาณกว่า 8ล้านคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 2หมื่นบาท จึงเป็นโอกาสที่มันนิกซ์จะเข้ามาช่วยเหลือด้วยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ออนไลน์  ผ่านฟินนิกซ์ (FINNIX) แอพเงินกู้คู่คนทำมาหากิน ซึ่งกำหนดวงเงินสินเชื่อสูงสุด 100,000บาทต่อราย คิดดอกเบี้ย 2.75%ต่อปี เบื้องต้นตั้งเป้าให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระให้ได้อย่างน้อย20% หรือราว 7.2ล้านคนของจำนวนทั้งสิ้น 36ล้านคน

สำหรับกลุ่มเป้าหมายเน้นคนที่มีรายได้เฉลี่ย 7,000-12,000บาท ซึ่งสิ้นปีนี้ตั้งเป้าอนุมัติสินเชื่อ 5,000ล้านบาท หลังจากให้บริการลูกค้ามาแล้ว 14เดือน(เริ่มเดือนพ.ค.ปี63)สามารถอนุมัติสินเชื่อแล้วรวม 3,000ล้านบาท จากลูกค้าเข้ามาใช้งานจริง 2.5แสนราย(ยอดการดาวน์โหลดมากกว่า 3.5 ล้านครั้ง)คาดว่าสิ้นปีจะมีฐานลูกค้าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3แสนราย อย่างไรก็ตามด้วยจุดแข็งของบริษัทมันนิกซ์ คือ ระบบปฏิบัติการที่ผสานพลังดิจิทัลของเทคโนโลยีเอไอ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) ทำให้ประเมินความเสี่ยงของลูกค้าได้รวดเร็ว ครอบคลุม และแม่นยำทำให้ FINNIX อนุมัติสินเชื่อ 25% 

 “ เราตั้งใจให้FINNIXช่วยคนมีรายได้น้อยที่ยังตกอยู่ในวังวนของหนี้นอกระบบสามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและยืดหยุ่นการจ่ายคืน 3รูปแบบคือ จ่ายขั้นต่ำเฉพาะดอกเบี้ย หรือเลือกจ่ายตามกำลังของผู้กู้และสามารถปรับเป็นการผ่อนชำระ 3  เดือน 6 เดือน 12เดือน ที่สำคัญลูกค้าที่รักษาเครดิตดีมีวินัยชำระคืนตรงเวลา 3เดือนก็จะได้รับรางวัลโดยเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ด้วย”

 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดนาโนไฟแนนซ์มูลค่าประมาณ 2แสนล้านบาทนั้น คาดว่าประมาณ 70,000ล้านบาทที่เป็นการให้บริการโดยผู้เล่นถูกกฎหมาย ซึ่งนอกจากFINNIXจะมุ่งมีส่วนร่วมในการลดปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงแล้ว ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะการให้ความรู้ในการเลือกใช้บริการทางการเงินโดยไม่โดนหลอก เพราะปัจจุบันจะเห็นแอพพลิเคชั่นที่ปลอมหรือเลียนแบบธนาคารในระบบจำนวนมาก  ขณะเดียวกันFINNIXจะสนับสนุนคนในการรักษาเครดิตและมีวินัยทางการเงินควบคู่กันไปด้วย

FINNIX ชูดอกเบี้ย 2.75%ต่อปีรุกนาโนไฟแนนซ์

เจ้แขกแหกปาก หรือ ไพฑูรย์ คำกลั่น เจ้าของร้านขายขนมครกชื่อดังแห่งนครปฐม กล่าวว่า “คนทำมาหากินอย่างเราก็ต้องการเงินมาหมุนใช้ในชีวิตประจำวันและต่อยอดธุรกิจ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเจ้ตกอยู่ในวังวนหนี้นอกระบบมาก็นาน วิตกกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับต้องคอยหนีเจ้าหนี้ เพราะเราไม่รู้จะไปพึ่งใคร ยิ่งตอนนี้โดนพิษโควิดทำให้ต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ จึงหันมาขายของในออนไลน์มากขึ้นเพื่อเอาตัวรอด ถึงอย่างไรก็ต้องการเงินสักก้อนมาสำรองใช้ในช่วงนี้

 

ซึ่งพอมีแอปฟินนิกซ์ (FINNIX) แอปเงินกู้คู่คนทำมาหากินมาให้พึ่งพาแล้วก็ปลอดภัยหายห่วงจากการทวงหนี้แสนโหด เพราะได้ดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ถูกกฎหมาย สมัครง่ายด้วยมือถือของเราเอง อนุมัติปั๊บได้เงินไวทันกับความต้องการในยามจำเป็น วันนี้เจ้อยากจะให้กำลังใจทุกคนนะว่าชีวิตไม่สิ้นก็ต้องสู้กันต่อไป ถึงวันนี้เราจะล้มหรือมีอุปสรรคถาโถมเข้ามาแต่คนทำมาหากินอย่างเราก็ต้องลุกขึ้นให้ได้ เพราะความสำเร็จรอเราอยู่”

  FINNIX ชูดอกเบี้ย 2.75%ต่อปีรุกนาโนไฟแนนซ์

ด้าน คุณฟ้า-กนกพรรณ หมวกไสว ผู้ก่อตั้งเพจมือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ กล่าวว่า “หากคุณไม่อยากตกเป็นเหยื่อของแอปกู้เงินผิดกฎหมายที่กำลังแพร่ระบาดเป็นภัยสังคมในเวลานี้ นอกจากผู้กู้และบุคคลใกล้ชิดจะถูกข่มขู่ ประจานให้อับอาย ถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย จากการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เผลอ ๆ บางทีเป็นหนี้ไม่รู้ตัวหรือเงินในบัญชีหายเกลี้ยง  เสียหายทั้งทรัพย์สินและจิตใจของผู้กู้ นำไปสู่ปัญหารุนแรงจนสามารถฆ่าตัวตายได้เลยเพื่อหนีหนี้ ก่อนการตัดสินใจนั้น ดิฉันดีใจที่ตอนนี้มีแอปฟินนิกซ์ (FINNIX) แอปเงินกู้ถูกกฎหมายที่เข้ามาช่วยเหลือคนทำมาหากินให้มีทางเลือกและหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์เหล่านั้นสักที ซึ่งก็มั่นใจได้ว่าเมื่อใช้บริการแล้วจะไม่ถูกเอาเปรียบและทำให้บริหารเงินเป็นอย่างยั่งยืน”