รีวิว Mitsubishi Xforce HEV ไฮบริดปรับใหม่ ช่วงล่างเด่น
รีวิว Mitsubishi Xforce เอสยูวีไฮบริด อาวุธใหม่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่ไปดึงการผลิตมาลงที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้ โดยเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองเกือบๆ 3,000 คัน
โมเดลแห่งความหวังของมิตซูบิชิ แบ่งการขายเป็น 3 รุ่นย่อย โดย gnite ราคา 8.99 แสนบาท Ultimate ราคา 1.039 ล้านบาท และ Ultimate X ราคา 1.089 ล้านบาท แน่นอนว่าช่วงเปิดตัวใหม่ๆ รุ่นท็อปขายดีสุดในสัดส่วน 70% ส่วนสีที่ได้รับความนิยมคือ ขาว แดง เหลือง
แม้ฟังก์ชัน การตกแต่งภายนอก-ภายในต่างกันตามระดับราคา แต่ทุกรุ่นย่อยใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ประกบยาง BRIDGESTONE ALENZA 001 225/50 R18 เป็นมาตรฐานนะครับ
มิตซูบิชิ วางตำแหน่งให้ Xforce HEV ไปชนกับพวกบีเอสยูวีไฮบริดกลุ่มบนทั้ง Toyota Corolla Cross Honda HR-V ซึ่งถ้าจะให้แจงจุดเด่นผมว่า เอสยูวีของโตโยต้า นั้นจะได้เรื่องฟังก์ชัน สิ่งอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันในภาพรวม จากเทคโนโลยีไฮบริดของเขา
ส่วน Honda HR-V e:HEV ให้อารมณ์การขับขี่สปอร์ต ทั้งพละกำลังและช่วงล่าง ขณะที่ Xforce โดดเด่นที่ช่วงล่าง การควบคุมหนึบแน่น ขณะที่การเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน่าจะดีที่สุดในคลาส
สำหรับ Mitsubishi Xforce เปิดตัวทำตลาดที่อินโดนีเซียตั้งแต่ปีที่แล้ว และเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร(ไม่มีรุ่นไฮบริด) แต่นั่นละครับ ถ้าชาวอิเหนามาเห็นรุ่น HEV ที่ขายในบ้านเรา คงต้องมีร้องไห้กันบ้าง
ในส่วนขุมพลังไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.1 kWh หลักการเหมือนรุ่นพี่ Xpander แต่ในรายละเอียดถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบฟูลไฮบริดที่เป็นได้ทั้งแบบพาราเรล และซีรีย์ โดยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นไฟ (กับเจเนอเรเตอร์) แต่สามารถส่งกำลังไปขับล้อโดยตรงได้ ส่วนหน้าที่ขับเคลื่อนหลักคือ มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งพลังของทั้งคู่ จะถูกควบคุมอัตราทด ก่อนถึงเพลาขับหน้าด้วย เฟืองเกียร์สูง-ต่ำ 2 สปีด (เอ็กซ์แพนเดอร์ 1 สปีด)
ขณะเดียวกัน ยังปรับบทบาทเจเนอเรเตอร์(ที่ติดกับเครื่องยนต์) โดยจะไม่ได้เป็นแค่ไดสตาร์ท หรือปั่นไฟ เท่านั้น เพราะจะทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ช่วยเสริมกำลังให้เครื่องยนต์ในหลายๆ จังหวะ เพื่อลดภาระเครื่องยนต์อีกด้วย (ไม่รวมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนหลักอีกหนึ่งตัว)
สำหรับ Mitsubishi Xforce HEV เคลมอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยไว้ 24.4 กม./ลิตร (ดีกว่า Xpander HEV 19 กม./ลิตร) แต่จากการทดสอบวิ่งบนเส้นทางกระบี่-ภูเก็ต ผมได้ตัวเลขประมาณ 17-18 กิโลเมตรต่อลิตร
Mitsubishi Xforce เป็นเอสยูวีขับเคลื่อนล้อหน้า มี 7 โหมดการขับขี่ ให้เลือก เราปรับเองได้ที่ปุ่มเขี่ยตรงคอนโซลกลาง แบ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบรถไฟฟ้า 2 รูปแบบ คือ EV Priority Mode ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์โดยไม่ต้องสตาร์ตเครื่องยนต์
Charge Mode ใช้เครื่องยนต์ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อพลังงานเหลือน้อยในขณะขับ หรือจอดรอได้ เพื่อให้สามารถใช้โหมด EV ได้นานขึ้น
ส่วนอีก 5 โหมดรองรับการขับขี่ทั้งทางดำและทางฝุ่น ปรับการตอบสนองของขุมพลัง เบรก และพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้ง Normal Tarmac(เป็นโหมด Sport ที่คันเร่งตอบสนองเร็ว พวงมาลัยหนักขึ้น และเพิ่มการหน่วงของระบบเบรกรีเจเนอเรทีฟ) Gravel Mud และ Wet
สอดคล้องกับตัว Active Yaw Control (AYC) ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง ปรับทั้งแรงขับ และแรงเบรกของล้อหน้าแต่ละข้าง
รวบรัดตัดความ...Mitsubishi Xforce เอสยูวีไฮบริด ที่พัฒนามาให้ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ และอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตร ส่วนช่วงล่าง การควบคุม หนึบแน่น ความเงียบภายในห้องโดยสาร ถือเป็นจุดเด่นที่สุด
รีวิว Mitsubishi Xforce HEV : กรกิต กสิคุณ