มิตซูบิชิ เลื่อนแผนเปิดตัวปิกอัพใหม่ Mitsubishi Triton 2023 พีพีวีลากยาว 2 ปี

16 มี.ค. 2566 | 03:19 น.

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จ่อขึ้นไลน์ผลิตปิกอัพเจเนอเรชันใหม่ Mitsubishi Triton 2023 ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งช้ากว่ากำหนดเดิม ที่วางแผนเปิดตัวต้นปี 2566 โดยพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ และเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ ส่วนพีพีวี ปาเจโร สปอร์ต โมเดลเชนจ์ ต้องรออีก 2 ปี

ตามที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแผนงานระยะกลางระหว่างปีงบประมาณ 2023-2025 โดยสาระสำคัญอยู่ที่แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้ง เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งรวมถึงปิกอัพโมเดลเชนจ์ Mitsubishi Triton 2023 และกลุ่ม xEV  คือ ไฮบริด, ปลั๊ก-อินไฮบริด, อีวี พร้อมเป้าหมายการขายรวมทั่วโลก 1.1 ล้านคันต่อปี

Mitsubishi Triton 2023

เมื่อลงลึกไปในตัวโปรดักต์อีก 5 ปีข้างหน้า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยืนยันการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่รวม 16 รุ่น ในจำนวนนี้เป็น xEV ถึง 9 รุ่น ซึ่งจะมีการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรคือ เรโนลต์ และ นิสสัน ด้วย

 

โดยกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ วางแผนใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการวิจัย-พัฒนา และการผลิต โดยค่ายตราเพชรจะหยุดการพัฒนาแพลตฟอร์มของรถยนต์ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น แล้วหันไปใช้แพลตฟอร์มของนิสสันแทน (รวมถึง EV) และนั่นจะทำให้รถระดับโกลบอลโมเดลมิตซูบิชิที่มีอยู่ 8 แพลตฟอร์ม จะลดเหลือ 4 แพลตฟอร์มภายในปีงบประมาณ 2026 อย่างไรก็ตาม หน้าที่ในการพัฒนาปิกอัพ 1 ตัน Mitsubishi Triton 2023 ยังเป็นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งมีตลาดใหญ่อยู่ในอาเซียนและโอเชียเนีย โดยมีไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ

 

ในส่วนปิกอัพเจเนอเรชันใหม่ของมิตซูบิชิ Mitsubishi Triton 2023 เตรียมขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 และคาดว่าจะพร้อมทำตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ส่วนพีพีวีที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันอย่าง ปาเจโร สปอร์ต โมเดลเชนจ์ มีกำหนดเปิดตัวในปี 2568

โมเดลเชนจ์ของมิตซูบิชิ ไทรทัน Mitsubishi Triton 2023  จะพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ และมีตัวถังขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบบล็อกใหม่ ตอบสนองเรื่องสมรรถนะที่ดีขึ้น และอัตราการปล่อยไอเสียที่ตํ่าลง (แต่รุ่นตัวถังตอนเดียวจะยังใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมรหัส 4N15 อยู่)

Mitsubishi Triton 2023

มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ Mitsubishi Triton 2023 พร้อมทำตลาดในไทยช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ และนอกจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว ปิกอัพรุ่นนี้ยังรองรับขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี ซึ่งจะพร้อมเปิดตัวหลังจากปี 2568

 

สำหรับยอดขายในปีที่แล้ว Mitsubishi Triton ทำได้ 21,573 คัน ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปี 2564 ครองอันดับ 4 ในตลาดปิกอัพ ตามหลังอันดับ 3 อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ขายรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ผสมกัน 33,817 คัน เพิ่มขึ้น 23.9%

 

ส่วนยอดขายในศักราชใหม่ประเดิมเดือนมกราคม Mitsubishi Triton ขายได้ 1,246 คัน น้อยว่าฟอร์ด เรนเจอร์ โฉมใหม่ 2,446 คัน ส่วนมวยใหญ่อย่างอีซูซุ ดีแมคซ์ และ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ทำได้ 11,820 คัน และ 10,349 คันตามลำดับ

 

โดยคู่แข่งสำคัญในการแย่งชิงอันดับ 3 ในตลาดปิกอัพอย่างฟอร์ด หลังจากเปิดตัว NextGenFord ในปี 2565 ที่มาครบทุกไลน์อัพหลัก ล่าสุดประกาศรุกตลาดฟลีต ด้วยการพัฒนาปิกอัพดัดแปลงให้ตอบสนองกับการใช้งานในธุรกิจของ ลูกค้า ภายใต้โปรแกรม Qualified Vehicle Modifier (QVM)

 

รถในกลุ่มกิจการพิเศษที่พัฒนามาจากพื้นฐาน ฟอร์ด เรนเจอร์ นี้ จะเข้ามาตอบโจทย์กลุ่มโลจิสติกส์ อาหาร เกษตรกรรม อุตสาหกรรมก่อสร้าง หรือดัดแปลงเป็นรถตู้เย็น รถพยาบาลฉุกเฉิน รถกระเช้า รถจัดส่งสินค้า รถบริการเคลื่อนที่ได้

 

ทั้งนี้ ฟอร์ดตั้งเป้าหมาย สร้างยอดขายปิกอัพเรนเจอร์ โฉมใหม่ให้เติบโตหลังจากมีรถครบไลน์อัพขายเต็มปีในปี 2566 พร้อมยึดตำแหน่งอันดับ 3 ตลาดปิกอัพ ในช่วงที่มิตซูบิชิ ไทรทัน กำลังเปลี่ยนผ่านสู่รุ่นโมเดลเชนจ์ Mitsubishi Triton 2023