เอสยูวี 2 รุ่นนี้ มองเผินๆ เหมือนจะเป็นรถในเซ็กเมนต์เดียวกัน หากวัดจากรูปแบบตัวถัง ขนาด และคุณลักษณะรวมๆ แต่ด้วยการเป็น EV ของ BYD Sealion 7 ที่ดูสดใหม่ทั้งการออกแบบ และฟังก์ชันต่างๆ พร้อมราคาที่สูงกว่า BYD Sealion 6 ประมาณ 2 แสนบาท
ขณะเดียวกัน จากประเภทของขุมพลังไฟฟ้าล้วน กับไฮบริดชาร์จได้แต่มีเครื่องยนต์ จึงสะท้อนความต้องการในการใช้งานที่ต่างกัน และแบ่งแยกกลุ่มลูกค้าไปในตัว
สำหรับ BYD Sealion 7 แบ่งการขายเป็นรุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 1,249,900 บาท แต่เปิดราคา Early Bird ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 ไว้ 1,149,900 บาท ส่วนตัวท็อป AWD Performance ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา1,399,900 บาท แต่ราคา Early Bird 1,249,900 บาท
การมาของเอสยูวีนำเข้าทั้งคันจากจีนรุ่นนี้ ยังเปิดโอกาสให้ซีดานที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันอย่าง Seal ได้ลดราคา (ตัวท็อปลดไป 4 แสนบาท) ซึ่งจะว่าไป BYD Sealion 7 น่าจะเสริมความแข็งแกร่งในเชิงกลยุทธ์ให้กับบีวายดี และเรเว่ ออโตโมทีฟ ได้เป็นอย่างดี
กล่าวคือใครอยากได้ ต้องการใช้ EV ที่ยกระดับขึ้นมาหน่อย(ราคาล้านนิดๆ) ไม่จบที่ Seal ก็ BYD Sealion 7 แต่ถ้าดูแล้วว่า เอสยูวีไฮบริด หรือปลั๊ก-อินไฮบริด เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากกว่า ยังไปเจอกับ BYD Sealion 6 ได้
รีวิว BYD Sealion 7 ผมลองขับรุ่นท็อป AWD Performance เส้นทางปราณบุรี-กรุงเทพ กับรถมอเตอร์คู่ เน้นขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ให้กำลังรวม 530 แรงม้า แรงบิด 690 นิวตันเมตร สมรรถนะสุดโหด การเรียกความเร็ว การเติมคันเร่ง รถพร้อมพุ่งทะยาน จัดจ้านตั้งแต่เซิ่นเจิ้น มาจนถึงถนนพระราม 2 (รถทดสอบแสดงเลขไมล์รวมไม่ถึง 100 กม. เรียกว่า ออกมาจากโรงงาน ส่งลงเรือมาสดๆร้อนๆ)
รถแรงจริงครับ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที ช้ากว่า Seal AWD Performance นิดเดียว ซึ่งคันนั้นแปะตัวเลขที่ฝากระโปรงท้ายไว้ 3.8 วินาที
บีวายดี น่าจะเป็นค่ายรถเดียวละครับ ที่โชว์อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ไว้ที่ตัวรถ ซึ่งจะมองว่าเป็นค่าย EV ที่จริงใจก็ได้ แต่ส่วนตัวผมว่า ด้านท้ายแปะอะไรรกเต็มไปหมด ดูเยอะไปนิด
สมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังดุดัน ทว่าการเซ็ตติ้งช่วงล่าง และการควบคุม ยังไม่สอดคล้องกับความโหดของขุมพลัง เท่าไหร่นัก
BYD Sealion 7 การรองรับออกแนวนุ่มโยน และขับสบายหากใช้ความเร็วต่ำ หรือวิ่งในเมืองเรื่อยๆ ทว่าเมื่อออกทางหลวง ขยับความเร็วสูงขึ้นระดับ 100-120 กม./ชม. ผมอยากให้รถหนึบแน่นกว่านี้อีกนิด
ส่วนใครบอกว่า ฉันไม่ได้บ้าพลัง ชีวิตไม่ได้ขับรถเร็ว ก็ว่ากันไปครับ เพียงแต่ผมจะนำเสนอว่า การที่รถสมรรถนะสูงขนาดนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ระดับสปอร์ตคาร์ชั้นดี ถ้าทำช่วงล่างให้สอดคล้องกันมันจะดูมีคลาสมาก หรือบีวายดี อาจจะแยกการเซ็ตติ้งมาสำหรับรุ่น AWD Performance โดยเฉพาะให้ต่างจากรุ่นมอเตอร์ตัวเดียว ที่เป็นรถบ้านก็ได้
ตัวรถยาว 4,830 มม. กว้าง 1,925 มม. สูง 1,620 มม. ระยะฐานล้อ: 2,930 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 163 มม. พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ประกบยาง Michelin Pilot Sport EV 245/45 R20 ถ้าดูเชิงโครงสร้าง และข้อมูลทางเทคนิค ผมว่าวิศวกรบีวายดี สามารถทำรถให้หนึบแน่นกว่านี้ได้สบาย
เหนืออื่นใด ด้วยการออกแบบรถให้ดูโฉบเฉี่ยว เสาเอ และเสาซี ลาดเอียงตามสมัยนิยม การนั่งหลังพวงมาลัยขับขี่เร้าใจ แต่ต้องแลกมาด้วยมุมมองด้านหลังที่บีบแคบ ทั้งการมองผ่านกระจกมองหลัง และการมองย้อนกลับผ่านไหล่ซ้าย เวลาเข้า-ออกทางร่วมทางแยก รถไม่ได้มีพื้นที่กระจกเหลือให้เห็นทัศนวิสัยด้านนอกมากนัก
รีวิว BYD Sealion 7 ด้านอัตราบริโภคพลังงาน ที่รถใช้แบตเตอรี่ 82.5 kWh เคลมระยะทางวิ่งในรุ่นมอเตอร์คู่ AWD ไว้ 542 กม./ชาร์จ (NEDC) ส่วนการขับจริงของผม บนถนนเพชรเกษม ต่อเนื่องพระราม 2 ใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. หน้าจอแสดงผลที่ 19 kWh ต่อ 100 กม. ถ้าคำนวณมาเป็นระยะทางวิ่ง(จากลักษณะการขับขี่ทางไกล) จะได้อยู่ 430 กม.จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง
รวบรัดตัดความ...บีวายดี พยายามเพิ่มไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบตัวถัง และขุมพลัง EV ปลั๊ก-อินไฮบริด ล่าสุดกับ BYD Sealion 7 สมรรถนะจัดจ้าน พร้อมฟังก์ชันต่างๆ กับราคาขายนี้ถือว่าน่าใช้สำหรับคนที่กำลังมองหารถพลังงานไฟฟ้าล้วน แต่นั่นละครับ รถจีนน่าจะทำการบ้านให้เข้มข้น เรื่องระบบช่วงล่างและการควบคุม ให้หนึบเนียนกว่านี้อีกนิด ถึงจะใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบ
รีวิว BYD Sealion 7 : กรกิต กสิคุณ