นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) โดยปี 67 จะได้เห็นความชัดเจนทั้งการขยายโครงข่ายสถานีชาร์จ EV ในปัมน้ำมัน ปตท. และนอกสถานีบริการครอบคลุมทั่วประเทศ
เพื่อรองรับความต้องการใช้รถ EV ที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงปลายปี 67 จะได้เห็นความชัดเจนสำหรับการเดินหน้าในเรื่องธุรกิจแบตเตอรี หลังล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมจัดตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรีลิเธียมไอออนแบบ Cell-To-Pack (CTP) ในประเทศไทย กับบริษัท Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL) เพื่อผลิตแบตเตอรีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง
เพื่อเสริมศักยภาพด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ภายใต้กรอบการลงทุนกว่า 3,600 ล้านบาท โดยโรงงานดังกล่าวจะพร้อมเดินสายการผลิตภายในปี 67 ด้วยกำลังการผลิต 6 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี
นอกจากนี้ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด หรือ ARUN PLUS บริษัทย่อยของ ปตท. ยังอยู่ระหว่างดำเนินการสร้างโรงงานฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรกับกลุ่มฟ็อกซ์คอนน์ โดยมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแผนที่จะเปิดเป็นโรงงานรับจ้างผลิตรถ EV ครบวงจร (OEM)
อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ โดยเฉพาะลูกค้าในเอเชีย รวมไปถึงยุโรป ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนในปี 67
"ธุรกิจ EV จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของกลุ่ม ปตท. ที่จะผลักดันรายได้ของกลุ่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน"