ฮือฮา เทสลาเปิดตัว “โมเดล วาย”ตลาดจีน รุ่นอัพเกรดแต่ยืนราคาเดิม 1.3 ล้านบาท
บริษัท เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เปิดตัวรถรุ่นโมเดล วาย (Model Y) ที่มีการปรับโฉมใหม่สำหรับตลาดจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ต.ค.) แต่ที่ฮือฮาคือ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมทั้งภายในและภายนอก แต่ยังยืนราคาเดิม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงข้อมูลจากบัญชีใช้งานแอปฯ วีแชท (WeChat) ของ บริษัทเทสลา ประเทศจีน ระบุว่า การปรับโฉม ครั้งนี้ของ รถรุ่น โมเดล วาย (Model Y) ยังมาพร้อมกับงานออกแบบตัวล้อใหม่ด้วย ขณะที่ราคาขายของรถรุ่นดังกล่าวซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในทุกตลาดทั่วโลกของเทสลา จะยังคง ยืนราคาเดิม ที่ 263,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1.34 ล้านบาท
ทั้งนี้ เทสลาเพิ่งเผยโฉมรถรุ่น โมเดล 3 (Model 3) ที่มีการปรับโฉมใหม่และมีระยะการวิ่งจากการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งที่ไกลขึ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตที่โรงงานของบริษัทในนครเซี่ยงไฮ้ สำหรับการจำหน่ายทั้งในจีนและตลาดส่งออกทั่วโลก เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง
เคยลดราคามาแล้วก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี (เดือนมกราคม) เทสลามีการปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าเทสลาในตลาดจีนเป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 3 เดือน ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า จะนำไปสู่สงครามราคา ในขณะที่ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าลดลงในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เทสลายังได้ประกาศลดราคารถไฟฟ้ารุ่นขายดีของบริษัท คือรุ่นโมเดล วาย และ โมเดล 3 ในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแผนการดังกล่าวของบริษัทกล่าวว่า เป็นความพยายามของเทสลาที่จะกระตุ้นความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งเป็นศูนย์ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งเดียวของเทสลา
กลยุทธ์ลดราคาครั้งนั้น ถือเป็นการลดราคาครั้งแรกของเทสลาตั้งแต่มีการแต่งตั้งนายทอม จู (Tom Zhu) เป็นผู้บริหารตลาดจีนและภูมิภาคเอเชีย เขาคนนี้เป็นผู้ดูแลผลผลิตและการส่งมอบรถยนต์เทสลาทั่วโลก ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของบริษัท หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา (2565) เทสลาไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ตรงตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์มักจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเป็นการควบคุมคลังสินค้าของตน แต่ที่ผ่านมา เทสลาสามารถรักษาระดับราคารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท หรือแม้แต่ขึ้นราคารถยนต์เมื่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น
จนกระทั่งถึงช่วงปลายปี 2565 นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาออกมายอมรับว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า และยังกล่าวด้วยว่า เทสลาอาจจะต้องลดราคารถรุ่นต่างๆลงมา เพื่อรักษาปริมาณการเติบโตของธุรกิจเอาไว้
รอยเตอร์คำนวณว่า ในการลดราคาในจีนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนม.ค.2566 และครั้งก่อนหน้าในเดือนต.ค. 2565 ตลอดจนข้อเสนอต่าง ๆ ที่มีให้กับผู้ซื้อชาวจีน เทสลาได้ลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลงแล้วประมาณ 13%-24% ตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 ในตลาดจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของเทสลา รองจากสหรัฐอเมริกา
เทสลาหั่นราคารถรุ่น Model 3 และ Model Y ในจีนลงมาแล้วประมาณ 6%-13.5% โดยลดราคา Model 3 จาก 265,900 หยวน (1,309,500 บาท) เป็น 229,900 หยวน (1,132,270 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคารถรุ่นเดียวกันที่จำหน่ายในสหรัฐถึง 24%-32%