ไทยประเดิมส่งออก EV ครั้งแรกเดือนเมษายน 68 จำนวน 660 คัน

23 พ.ค. 2568 | 10:19 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ค. 2568 | 12:36 น.

ส.อ.ท.เผยเดือนเม.ย.68 ไทยส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรก 660 คัน ด้านตัวเลขการขาย EV ช่วยดันยอดรถยนต์รวมฟื้นตัวเล็กน้อย

ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ อย่างสงครามการค้า อย่างไรก็ตามในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังถือว่ามีเรื่องที่น่ายินดีอยู่บ้าง เพราะถือเป็นเดือนแรกที่ไทย เริ่มส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ไปยังตลาดต่างประเทศ จำนวน 660 คัน 

 

ขณะที่ยอดขายรถใหม่ป้ายแดงในประเทศเดือนเมษายน 2568 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 0.97 % ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็มาจากยอดขายในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่ทำยอดขายรวม 10,901 คัน คิดเป็น 23.10  % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 179.51 %

 

ไม่ใช่แค่เพียงยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโต ในเดือนเมษายน 2568 การผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น BEV PHEV HEV ต่างก็มีสัดส่วนที่เติบโตเพิ่มขึ้น เฉพาะรถ BEV หรือ EV ผลิตได้ 4,764 คัน เพิ่มขึ้น 639.75 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่รถยนต์สันดาป ICE ยอดผลิตลดลงกว่า 33.60 % 

 

สำหรับยอดผลิต ยอดขาย และยอดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ถือว่าสอดคล้องกับการสนับสนุนของรัฐบาล ที่ได้ออกมาตรการส่งเสริมผ่านการอุดหนุนด้านราคา มาตรการด้านภาษี ทำให้ประชาชนคนไทยได้เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง ขณะเดียวกันมาตรการส่งเสริมดังกล่าว ยังดึงดูดให้เหล่าผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งจะทำให้เป้าหมายที่ไทยเคยประกาศตามนโยบาย 30@30 ที่ไทยจะผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2030 หรือ ปี 2573 เป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้

ไทยประเดิมส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกเดือนเมษายน 68 จำนวน 660 คัน

ขณะที่ข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พบว่าเดือนเมษายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า BEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 8,029 คัน เพิ่มขึ้น  32.91 % โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,264 คัน เพิ่มขึ้น 53.12 % 
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 26 คัน เพิ่มขึ้น  550 %
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 3 คัน ลดลง 86.36 %
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,704 คัน ลดลง 8.04 %
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 3 คัน ลดลง 95.08 %
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 29 คัน เพิ่มขึ้น 190%

 
เดือนมกราคม - เมษายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า BEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  40,020 คัน เพิ่มขึ้น 11.93 % โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 31,661 คัน เพิ่มขึ้น 20.49 %
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 108 คัน ลดลง 28.95 %
  • รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 8 คัน ลดลง 72.41 %
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 8,105 คัน ลดลง 10.53 %
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 50 คัน ลดลง 53.27 %
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 88 คัน ลดลง 32.82 %

ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า
 

ด้านตัวเลขยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 266,863 คัน เพิ่มขึ้น 59.48 % โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 190,791 คัน เพิ่มขึ้น 64.62 %
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 978 คัน เพิ่มขึ้น 125.35 %
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,029 คัน เพิ่มขึ้น 11.73 %
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 70,246 คัน เพิ่มขึ้น 49.09 % 
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,836 คัน เพิ่มขึ้น 12.23%
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 983 คัน เพิ่มขึ้น 125.98%
     

ยานยนต์ไฟฟ้าในไทย