กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผย จำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ในเดือนเมษายน 2568 โดยภาพรวมอุตฯยานยนต์ไทย ผลิตรถยนต์ลดลง 0.40 % ถือเป็นการผลิตต่ำสุดในรอบ 44 เดือน อย่างไรก็ตามในแง่ยอดขายรถใหม่ป้ายแดง ตัวเลขเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.97 % ด้านตลาดส่งออก ลดลง 6.31 %
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไทยผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 4,764 คัน เพิ่มขึ้น 639.75 % ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 10,981 คัน เพิ่มขึ้น181.56 % และส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า 660 คันเป็นเดือนแรก ทั้งนี้สามารถตรวจสอบตัวเลขยอดการผลิต ยอดขาย ยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมดในเดือนเมษายน และภาพรวมตั้งแต่มกราคม -เมษายน 2568 พร้อมทั้งปัจจัยที่มีผลกับอุตสาหกรรมยานยนต์ดังนี้
ยอดผลิตเดือนเม.ย.68 ลดลง 0.40 % ผลิตต่ำสุดในรอบ 44 เดือน
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2568 มีทั้งสิ้น 104,250 คัน ลดลง 0.40 % โดยยอดผลิตลดลงไม่มาก เพราะมีการผลิตรถยนต์นั่งและรถ SUV ไฟฟ้าทั้ง BEV PHEV และ HEV ในประเทศมากขึ้นเพิ่มขึ้น 639.75 % ,319.11% , 35.31 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามการผลิตรถยนต์นั่งสันดาปภายในลดลง 33.60 % เพราะผลิตรถยนต์นั่งส่งออกลดลง 36.93 %เนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์บางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลง 3.06 % เพราะผลิตขายในประเทศลดลง 33.16 % ตามยอดขายรถกระบะในประเทศที่ยังคงลดลง 22.25 %
ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - เมษายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 456,749 คัน ลดลง 11.96 %
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนเมษายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 0.97 % เนื่องจากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในขณะที่รถกระบะและรถ PPV ยังคงขายลดลง 21.7 % และ 20.5 %ตามลำดับ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ายอดขายรถกระบะและ PPV ที่ลดลงเป็นผลมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ ผลจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเพราะดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงลดลง 3.83 % การลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งปีนี้ลดลง และจากค่าครองชีพที่ยังสูง ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง
อย่างไรก็ตามยอดขายรถในกลุ่ม BEV ยานยนต์ไฟฟ้า พบว่าเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำยอดขายได้ 10,901 คัน คิดเป็น 23.10 % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 179.51 %
ขณะที่ยอดขายรถยนต์รวม 4 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - เมษายน 2568) รถยนต์มียอดขาย 200,386 คัน ลดลง 4.80 % โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 127,188 คัน เท่ากับ 63.47 % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 0.38 %
รถกระบะมีจำนวน 51,319 คัน ลดลง 15.42 % โดยรถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 173 คัน ส่วนรถ PPV มีจำนวน 12,266 คัน ลดลง 8.71 % ,รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 4,675 คัน ลดลง 15.42 % และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 4,765 คัน เพิ่มขึ้น 14.93 %
เดือนเมษายน 2568 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 65,730 คัน ลดลง 6.31 % ซึ่งยอดที่ลดลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่นและการเข้มงวดในเรื่องเทคโนโลยีช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยและการปล่อยคาร์บอนในบางประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตามรถยนต์ HEV มีการส่งออกเพิ่มขึ้น 87.96 %แต่จำนวนไม่มาก
ในภาพรวมการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของไทยลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ คงต้องติดตามผลการเจรจาของประเทศไทยและประเทศคู่ค้าสำคัญของประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาต่อไป
อนึ่งในเดือนเมษายน 2568 ไทยเริ่มส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเดือนแรก โดยยอดอยู่ที่ 660 คัน ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน มกราคม – เมษายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 290,288 คัน ลดลง 14.79 %