ปตท. แนะเทคนิค “ขับรถขึ้น - ลงเขา อย่างไร ให้ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน”

หลายคนอาจจะมีแพลนท่องเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเดินทางขึ้นเหนือ ล่องใต้ การเดินทางไกลเช่นนี้สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดคือ “ความปลอดภัย” โดยเฉพาะเส้นทางการขับรถเช่น “การขึ้น-ลงเขา” ที่มีทั้งทางตรง ทางลาดชัน ทางโค้งหักศอก ผู้ขับรถยนต์มือใหม่อาจจะเป็นกังวล เพราะต้องใช้ทักษะการขับรถที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ และแม้แต่ผู้ที่ขับรถยนต์มาอย่างชำนาญ เส้นทางการขับรถบนภูเขาก็มีเส้นทางที่หลายคนเรียกกันว่า เส้นทางปราบเซียน

ก่อนออกเดินทางผู้ขับควรศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเพื่อความปลอดภัยทั้งตัวผู้ขับเองและผู้โดยสารในรถ ปตท. ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิค “การขับรถขึ้น - ลงเขา อย่างไร ให้ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน” ช่วยให้ความรู้เพิ่มเติม เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้ขับรถยนต์ก่อนการเดินทาง นอกจากจะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยขึ้นแล้ว การปฏิบัติตามแนวทางที่แนะนำ จะช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ประหยัดเงินค่าน้ำมันไว้ใช้ในทริปได้อีกด้วย

ข้อแนะนำในการขับรถขึ้นเขา

• แตะคันเร่งเบาๆ พยายามควบคุมความเร็วให้คงที่ 50 - 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  การควบคุมความเร็วให้คงที่นอกจากจะช่วยทำให้การขับขี่ปลอดภัยแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น

• เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า 30 - 50 เมตร
  เส้นทางภูเขามีทางลาดชันอยู่มาก รถแต่รุ่นมีกำลังส่งของเครื่องยนต์ที่ต่างกัน หากคันหน้าขึ้นเนินเขาไม่ไหว จะได้สามารถขับรถเบี่ยงออกได้ทัน ป้องกันการเบรกกะทันหัน ขับหลบหลีกได้อย่างปลอดภัย

• มองให้ไกล และอย่าแซงทางโค้ง
  เส้นทางบนเขามีบริเวณที่เป็นจุดอับสายตาอยู่หลายแห่ง เส้นทางที่คดเคี้ยวอาจจะบดบังทัศนียภาพและทัศนวิสัย ของผู้ขับขี่ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากรถที่กำลังสวนทางลงเขา ดังนั้นควรมองไปข้างหน้าให้ไกล และไม่แซงเมื่อถึงทางโค้ง

• ใช้เกียร์ต่ำเพิ่มกำลังเครื่องยนต์
  การใช้เกียร์ต่ำทำให้รถยนต์พุ่งตัวได้ดีในทางลาดหรือทางชัน แต่การใช้เกียร์สูงจะทำให้รถกินน้ำมันเชื้อเพลิง

• เปิดเครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะ
  เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ทำงานได้โดยอาศัยพลังงานจากน้ำมัน ควรปรับระดับความเย็นและความแรงของลมที่เหมาะสม จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้

ข้อแนะนำในการขับรถลงเขา

• รักษาความเร็วคงที่ 30 - 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  ใช้เกียร์ต่ำในการลงเขา ช่วยให้เครื่องยนต์เกิดแรงต้านและจะช่วยดึงกำลังรถให้เคลื่อนที่ช้าลง (Engine Brake) นอกจากนี้ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำ เพราะช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมเบรกและควบคุมทิศทางของรถได้ดีกว่า

• อย่าเหยียบเบรกค้าง ควรแตะเบรกแบบ แตะๆ ปล่อยๆ
  การแตะเบรกยาวๆ ระหว่างลงทางลาดชันจะทำให้ระบบเบรกร้อนและผ้าเบรกไหม้

• ไม่ควรเบรกลึกในที่โค้ง
  เพราะจะทำให้ท้ายรถยนต์สะบัด ซึ่งรถบางคันไม่มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

• ไม่ควรใช้เกียร์ว่างและปล่อยให้รถไหลไปตามทาง
  เพราะขับรถลงเขา รถจะไหลด้วยความเร็วสูง ชุดเกียร์จะเกิดความร้อนมากกว่าปกติและไม่สามารถใช้น้ำมันเกียร์มาหล่อเลี้ยงได้

• หมั่นดูกระจก เพื่อสังเกตรถด้านหลัง
  ควรหลบให้แซง หากสังเกตได้ว่ารถที่ตามท้ายมาขับจี้และเบรกบ่อยๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะรถด้านหลังเบรกไหม้หรือผ้าเบรกหมด นอกจากไม่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วย

นอกจากข้อแนะนำที่ควรรู้ระหว่างการเดินทางขับขี่ขึ้น - ลงเขาข้างต้นแล้ว ก่อนออกเดินทางผู้ใช้รถยนต์ควรตรวจสภาพความพร้อมของเครื่องยนต์ให้เรียบร้อย เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจเช็กเครื่องยนต์ตามระยะทาง พร้อมตรวจสอบระบบเบรก ระบบไฟ ตรวจสอบสภาพยาง เติมลมให้พร้อม เพื่อการเดินทางในวันพิเศษอย่างปลอดภัยหายห่วง