Motor Show 2022 ปัจจัยหนุนตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 65 โต

24 มี.ค. 2565 | 07:10 น.

โตโยต้า ประเมินตลาดรถยนต์เดือนมีนาคมแนวโน้มรุ่ง หลังค่ายรถแห่เปิดตัวรุ่นใหม่ -อัดแคมเปญ -ร่วมอีเวนต์ใหญ่ Motor Show 2022 ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด  เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการปรับตัวของประชาชนในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 COVID 19 โดยไม่ส่งผลกระทบมากนัก ทำให้สามารถใช้ชีวิต และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติจนกลายเป็น New Normal ในชีวิตประจำวัน

 

อย่างไรก็ดีการดำเนินกิจกรรมการตลาด และการแนะนำรถรุ่นใหม่จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงข้อเสนอพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ เพื่อปูทางสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยผลักดันอัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์ด้วยอีกทางหนึ่ง ส่วนปัจจัยลบตลาดรถยนต์ในตอนนี้คือราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเป็นตัวฉุดความมั่นใจของผู้บริโภคให้ชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ออกไป
 

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

ขณะที่ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วงที่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 พบว่าตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 143,944 คัน เพิ่ม 26.1% โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 45,955 คัน เพิ่ม 31% รถเพื่อการพาณิชย์ 97,989 คัน เพิ่ม 23.9%และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)  76,409 คัน เพิ่ม 24.7%

 

ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 74,489 คัน เพิ่ม 26.3%  โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 22,590 คัน เพิ่ม 19.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 51,899 คัน เพิ่ม 29.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 41,447 คัน เพิ่ม 33% 

 

"ตลาดรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่เพิ่ม 26.3% เป็นผลจากความต้องการใช้รถยนต์ทั้งเพื่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการใช้งานส่วนตัวของลูกค้าปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแรงส่งจากยอดจองรถในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป รวมทั้งช่วงแคมเปญสิ้นปีที่ค่ายรถยนต์ยังคงทยอยส่งมอบรถถึงมือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม"

 

โตโยต้า เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2022
 

สำหรับยอดขายรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้


1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 74,489 คัน เพิ่มขึ้น 26.3%                            

โตโยต้า 24,998 คัน 

  • เพิ่ม     57.2%     
  • ส่วนแบ่งตลาด 33.6%

 

อีซูซุ     20,193 คัน    

  • เพิ่ม       22.6%        
  • ส่วนแบ่งตลาด 27.1%

 

ฮอนด้า    7,090 คัน    

  • ลดลง         21.3%     
  • ส่วนแบ่งตลาด   9.5%

 

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,590 คัน เพิ่มขึ้น 19.1%                                 

โตโยต้า 6,091 คัน    

  • เพิ่ม      50.2%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 27.0%

 

ฮอนด้า 5,417 คัน    

  • ลดลง        31.2%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 24.0%

 

มาสด้า 2,042 คัน

  • เพิ่ม      11.8%    
  • ส่วนแบ่งตลาด  9.0%

 

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 51,899 คัน เพิ่มขึ้น 29.8%  

                              
อีซูซุ    20,193 คัน

  • เพิ่ม    22.6%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 38.9%

 

โตโยต้า 18,907 คัน

  • เพิ่ม    59.7%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 36.4%

 

มิตซูบิชิ 2,848 คัน

  • เพิ่ม     28.2%    
  • ส่วนแบ่งตลาด  5.5%

 

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย  41,447 คัน เพิ่มขึ้น 33%      

                          
อีซูซุ    18,689 คัน    

  • เพิ่ม    21.4%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 45.1%

 

โตโยต้า 16,736 คัน

  • เพิ่ม    71.1%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

 

มิตซูบิชิ 2,830 คัน    

  • เพิ่ม   30.5%    
  • ส่วนแบ่งตลาด  6.8%

 

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,725 คัน 

  • โตโยต้า 2,915 คัน 
  • อีซูซุ 1,659 คัน
  • มิตซูบิชิ 697 คัน 
  • ฟอร์ด 391 คัน 
  • นิสสัน 63 คัน

 

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 35,722 คัน เพิ่มขึ้น 35.5%                                 

อีซูซุ    17,030 คัน    

  • เพิ่ม    25.7%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 47.7%

 

โตโยต้า 13,821 คัน    

  • เพิ่ม    76.2%    
  • ส่วนแบ่งตลาด 28.7%

 

มิตซูบิชิ 2,133 คัน    

  • เพิ่ม    30.2%    
  • ส่วนแบ่งตลาด  6.0%