Lamborghini Urus ดันยอดขายในไทยพุ่ง 75 คัน - ส่ง Avantador PHEV ลุยปี 2022

02 ก.พ. 2565 | 04:19 น.

ลัมโบร์กินี ยืนยันว่ารถยนต์ไฟฟ้าโมเดลแรก ที่เตรียมเปิดตัวสู่ตลาดโลกในปี 2566 จะเป็นรถปลั๊ก-อินไฮบริด เครื่องยนต์ วี12 ส่วนแผนการแนะนำ EV จะเริ่มในปี 2569 ปลื้มผลงาน “เรนาสโซ มอเตอร์” ผลักดันยอดขายในไทยเพิ่มเป็น 75 คัน ส่วนหนึ่งเพราะเอสยูวี Lamborghini Urus 

ภายใต้แผน Direzione Cor Tauri พร้อมการลงทุน 60,000 ล้านบาทของออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี อิตาลี ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และมุ่งสู่การขาย EV (รถ 4 ที่นั่ง) ตั้งแต่ปี 2569 ขณะเดียวกันค่ายกระทิงดุ ยังยืนยันว่า รถโมเดลแรกภายในโครงการนี้จะเป็นรถปลั๊ก-อินไฮบริด ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 เตรียมเปิดตัวในปี 2566 จากนั้นรถยนต์ทุกรุ่นที่เปิดตัวภายในสิ้นปี 2567 จะมีระบบไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนทั้งหมด

 

เหนืออื่นใด ในช่วงที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 มา 2 ปี แต่เหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของลัมโบร์กินี เพราะในปี 2564 ยังทำยอดขายรวมทั่วโลกได้ 8,405 คันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแบรนด์ และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 2563

Lamborghini Urus ดันยอดขายในไทยพุ่ง 75 คัน - ส่ง Avantador PHEV ลุยปี 2022

นายฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” พร้อมเปิดเผยความสำเร็จในปี 2564 ซึ่งมีบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย มีส่วนผลักดัน พร้อมเผยทิศทางของแผนงานรถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของบริษัท

 

“ลัมโบร์กินี ไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่เคยหลับใหล แม้ในปี 2564 ที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่เราได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก(173 ราย ใน 53 ประเทศ) รวมถึงการเปิดตัวรถใหม่ 4 รุ่น โดยใช้กลยุทธ์ด้านการสื่อสารและการนำเสนอที่แตกต่างกัน รวมถึงการเปิดตัวรถด้วย AR-VR เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง ทำให้สามารถเชื่อมโยงกับพันมิตร สื่อมวลชนและลูกค้าของได้อย่างใกล้ชิด” นายสกาดาโอนิ กล่าวและว่า

 

ในปี 2021 ลัมโบร์กินีมียอดจองเป็นจำนวนมาก ถือเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับลัมโบร์กินี โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีการส่งมอบรถยนต์ 2,249 คัน ถือเป็นสถิติระดับโลกครั้งใหม่ ซึ่งรวมถึงผลงานของประเทศไทยด้วย

สำหรับธุรกิจในประเทศไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการดำเนินงานของ เรนาสโซ มอเตอร์ พร้อมสร้างผลงานอันโดดเด่นได้อย่างรวดเร็วด้วยยอดขายลัมโบร์กินีในปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 75 คัน ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของตลาดเอเชียแปซิฟิก

Lamborghini Urus ดันยอดขายในไทยพุ่ง 75 คัน - ส่ง Avantador PHEV ลุยปี 2022 อภิชาติ ลีนุตพงษ์ แม่ทัพใหญ่ของ เรนาสโซ มอเตอร์

ความสำเร็จนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย แน่นอนว่า Urus, Huracan, Aventador และรถ Limited Edition ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย อย่างเอสยูวี Urus ที่มีความสะดวกสบาย ลูกค้าสามารถสนุกกับอิสระที่รถมอบให้ ขับขี่ได้ในทุกเส้นทาง ตั้งแต่การขับด้วยความเร็วในสนามแข่ง หรือการขับขี่ ที่สะดวกสบายทั้งบนถนน และ Off Road”

 

ลัมโบร์กินี เป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ เราเคยชินกับการมีสมาชิกอายุน้อยในครอบครัวของเรา ซึ่งสอดคล้องกับรถและสินค้า รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและกิจกรรมต่างๆ หรือนับตั้งแต่เปิดตัว Urus ผู้ซื้อ โดยเฉลี่ย 70% เป็นผู้ที่ซื้อ ลัมโบร์กินีคันแรก ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่คนอายุน้อยไปจนถึงรุ่นผู้ใหญ่ เราภูมิใจที่ทำให้คนสองกลุ่มได้เข้ามาอยู่ใน Community ร่วมกัน

 

“เรนาสโซ มอเตอร์ เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด  และเป็นต้นแบบของการส่งมอบรถให้ลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสร้างสรรค์งานส่งมอบอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด รวมไปถึงการมอบการบริการหลังการขายอันยอดเยี่ยม ซึ่งเราต้องการสร้างความสุขให้กับลูกค้าในทุกวันด้วยประสบ การณ์เอ็กซ์คลูซีฟจากลัมโบร์กินี”

Lamborghini Urus ดันยอดขายในไทยพุ่ง 75 คัน - ส่ง Avantador PHEV ลุยปี 2022

นายสกาดาโอนิ ยังเปิดเผยถึงแผนงานรถยนต์ไฟฟ้า Direzione Cor Tauri ว่า การพัฒนาไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฮบริดจะเริ่มต้นจาก Aventador ตามด้วย Urus และ Huracan ที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่สมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ของลัมโบร์กินี อย่างแท้จริง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2569 ลัมโบร์กินีจะก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงโปรดักต์ไลน์อัพครั้งใหญ่ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสู่โมเดลที่ 4 และเป็นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

Lamborghini Urus ดันยอดขายในไทยพุ่ง 75 คัน - ส่ง Avantador PHEV ลุยปี 2022

“การพัฒนาสู่รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ สะท้อนถึงความรับผิดชอบและความทุ่มเทของแบรนด์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในช่วงการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรม ยานยนต์กำลังเผชิญกับช่วงการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากการใช้พลังงานไฟฟ้า”

 

หัวใจและความสำคัญของโปรเจกต์ Cor Tauri คือ DNA ของแบรนด์ และความสามารถที่จะเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาสมรรถนะให้ตอบสนองทางด้านอารมณ์ที่เหนือกว่า แต่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ CO2 อันเข้มงวด

 

“เราพูดเสมอว่าเราไม่ต้องการเป็นแบรนด์แรกที่ก้าวเข้าสู่ EV แต่เราต้องการที่จะทำให้ดีที่สุด นี่จึงเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของ ลัมโบร์กินี ที่เราต้องแน่ใจว่า เมื่อลูกค้านั่งอยู่ในรถพลังงานไฟฟ้า แม้กระทั่งมีผ้าปิดตาอยู่จะรู้สึกได้ทันทีว่าอยู่ในรถลัมโบร์กินี ลูกค้าจะต้องสนุกไปกับการขับรถเซกเมนต์ ต่างๆ รวมถึงรถพลังงานไฟฟ้า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไทม์ไลน์ของลัมโบร์กินี คือปี 2569” นายสกาดาโอนิ กล่าว