"เกรย์มาร์เก็ต"ฆ่าไม่ตาย...เบนซ์ ออโต้ เซอร์วิส รีแบรนด์ ETON-BRGจัดหนักเข้ามอเตอร์โชว์

ฟื้นธุรกิจ“เกรย์มาร์เก็ต” ปีนี้สถานการณ์กลับมาคึกคัก “เบนซ์ ออโต้ เซอร์วิส” ทุ่ม 100 ล้านบาทรีแบรนด์เป็น “บี ออโต้ ฮาวส์” รีโนเวตโชว์รูม ชูภาพลักษณ์ใหม่บริการหลังการขาย ด้าน “บีอาร์จี” เสริมแกร่ง โชว์รูม-ศูนย์บริการ พัฒนาแอพพลิเคชัน ขณะที่ “อีตั้น” จับชุดแต่งญี่ปุ่น “จังชั่นโพร ดิวส์” ตบเท้าเข้างานมอเตอร์โชว์

สมรภูมิรถหรูที่ทำตลาดผ่านผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ตฮึดสู้อีกรอบ หลังจากหลายปีที่ผ่านมาประสบภาวะชะงักงัน เนื่องจากมาตรการของภาครัฐที่มีความเข้มงวด ทั้งในส่วนของเงื่อนไขรายละเอียดการนำเข้า การเสียภาษี การตรวจสอบผ่านสมอ. รวมไปถึงรถบางรุ่นบางยี่ห้อมีการผลิตจากโรงงานในประเทศและบริษัทแม่ทำตลาดเองมีราคาถูกกว่า แถมรับประกันจากโรงงานโดยตรง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับธุรกิจรถนำเข้าในช่วงที่ผ่านมา หากมองในแง่มุมบวก พบว่ามาตรการความเข้มงวดต่างๆเป็นการคัดกรองผู้ประกอบการไปในตัว เรียกได้ว่าใครที่ตีหัวเข้าบ้าน ไม่มีความโปร่งใส ไม่ดูแลลูกค้า หรือสายป่านไม่ยาว ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป ส่วนที่เหลือและทำตลาดกันอยู่ เป็นผู้ประกอบการที่ต้องการอยู่ในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง โดยข้อมูลอ้างอิงจากสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ มีการประเมินว่าผู้ประกอบการในปัจจุบันมีประมาณ 60-70 ราย ลดลงจากเดิมที่มีมากกว่า 100 ราย

“ย้อนกลับไปในอดีต ที่ตลาดรถนำเข้าบูมมาก มีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด อย่างไรก็ตามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตลาดเริ่มซบเซา กิจกรรมต่างๆลดน้อยลงไป ซึ่งเรามองว่าสถานการณ์ในปัจจุบันทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นควรจะลุกมากระตุ้นตลาดให้กลับมาอีกครั้ง” นายอัครวัชร คงสิริกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี ออโต้ฮาวส์ จำกัด กล่าวและว่า

สำหรับบี ออโต้ ฮาวส์ หรือแต่เดิมที่ใช้ชื่อ เบนซ์ ออโต้ เซอร์วิส ได้งัดแผนรุกด้วยการทุ่มเม็ดเงิน 100 ล้านบาท รีแบรนด์ธุรกิจทั้งเปลี่ยนชื่อ, รีโนเวตโชว์รูม, เพิ่มบริการหลังการขายครบวงจร พร้อมเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และครั้งแรกกับการสื่อสารตลาดผ่านพรีเซ็นเตอร์ อย่าง ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ ศิลปินนักร้องชื่อดัง

“เราใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ส่วนการเปลี่ยนชื่อเพื่อให้แบรนด์ดูเด็กลง ในส่วนของบริการหลังการขาย เรามีทั้ง ออโต เซอร์วิส ศูนย์บริการครบวงจร,ออโต คัลเลอร์ แล็บ ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง, ออโต เอสเซนส์ ดูแลรักษารถเคลือบสี และเพิ่มบริการ อาทิ บัตเลอร์ส่วนตัวที่จะทำหน้าที่เสมือนเลขาที่คอยบอกข้อมูลให้กับลูกค้าเจ้าของรถแต่ละราย ว่าจะต้องนำรถเข้ามาตรวจเช็กเมื่อไร หรือประสานงานด้านอื่นๆ”

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เหล่าผู้นำเข้าอิสระหลายแบรนด์นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขายคือ การเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของชุดแต่ง ซึ่งบี ออโต้ ฮาวส์ ได้รับแต่งตั้งจาก โรเวน (Rowen) ประเทศญี่ปุ่น และในอนาคตมีแผนเพิ่มชุดแต่งอีก 2 แบรนด์ในกลุ่มรถยุโรป และ รถอเมริกัน

“เราจะแนะนำแบรนด์โรเวนให้ลูกค้าได้รู้จักในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเราที่ได้เข้าร่วมงาน โดยรถที่นำไปโชว์มี 5 คัน อาทิ อัลฟาร์ด , เวลไฟร์, วอกซี่ รวมไปถึงรถรุ่นใหม่ที่เรานำเข้ามาอย่าง Jeep Renegade โดยเราคาดหวังว่าจะมียอดขายจากในงาน”

ส่วนการโรดโชว์ผ่านการออกบูธตามห้างสรรพสินค้ายังคงเป็นกิจกรรมหลักที่ต้องทำทุกเดือน ควบคู่ไปกับการสื่อสารตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ อาทิ ไอแพดที่นำเสนอข้อมูลต่างๆ ของรถ หรือการรับรถ พร้อมทั้งพัฒนาเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า อาทิ เคลมออนไลน์ ,ซื้อรถออนไลน์

จากแนวรุกอย่างเต็มสูบของบี ออโต้ ฮาวส์ ที่ประกาศออกมา คาดว่าจะมีผลด้านยอดขายที่เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 20% หรือคิดเป็นรายได้ 1,200 ล้านบาท โดยยอดขายหลักมาจากรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น 70% และ 30% มาจากแบรนด์ยุโรปและอเมริกา

ขณะที่ผู้ประกอบการรถนำเข้ารายอื่นๆในตลาด แม้จะไม่ออกตัวแรง แต่หลายค่ายมีการปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลง อาทิ บีอาร์จี กรุ๊ป ที่มีจำนวนสาขา 5 แห่ง และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมพัฒนาแอพพลิเคชันและทำเว็บไซต์ใหม่เพื่อรองรับลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในไตรมาส 2 ส่วนกิจกรรมที่เน้นหนักในแต่ละปี คือเข้าร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ทั้งมอเตอร์โชว์ และมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยนำรถพร้อมชุดแต่ง M’z SPEED ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเข้าไปทำตลาด

เช่นเดียวกับค่าย อีตั้น กรุ๊ป ที่ปรับกลยุทธ์เน้นบริการหลังการขาย, เพิ่มแผนกรถมือ 2 ,บริการเคลือบแก้ว ออโต้ โอเอซีส และล่าสุดจับมือกับชุดแต่งจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ จังชั่นโพรดิวส์ (Junction Produce)

การเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดแต่งจังชั่นโพรดิวส์ ทำให้อีตั้นตัดสินใจเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ได้ร่วมงาน โดยอีตั้นเตรียมนำชุดแต่งพร้อมรถเอ็มพีวีหลายรุ่น และแคมเปญพิเศษเมื่อจองรถ โดยจะได้รับชุดแต่งจังชั่นโพรดิวส์ มูลค่า 1 แสนบาท, รับประกัน 2 ปี หรือ 4 หมื่นกิโลเมตร,เครื่องเสียง มัลติมีเดียเต็มระบบ และสิทธิพิเศษต่างๆ จากอีตั้นแฟมิลี่บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง โดยอีตั้นคาดว่าผลจากการแนะนำแบรนด์ใหม่ในครั้งนี้ จะทำยอดขายในงานจำนวน 60 คัน

เรียกได้ว่าพร้อมรบ สำหรับผู้นำเข้ารายใหญ่ ที่วันนี้ทุกค่ายต่างติดอาวุธการตลาดเพิ่ม ส่งผลให้การแข่งขันของตลาดนี้กลับมาคึกคักไม่ต่างจากหลายปีที่ผ่านมา 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3455 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มีนาคม 2562