ตลาดมอเตอร์ไซค์หืดจับ! ดีลเลอร์-ผู้ผลิตปรับกลยุทธ์ "บริทไบค์" ทุ่ม 200 ล้านบาท เดินหน้าปรับปรุงเครือข่าย และผุดโครงการมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ ย่านวิภาวดีฯ ด้าน 'ฮอนด้า' จับมือ 'เกรย์ฮาวด์' เดินหน้าเพิ่มร้าน "คับ เฮาส์" หวังขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ คาดปี 2563 ครบ 40 แห่ง
กระแสความนิยมของรถบิ๊กไบค์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา ตัวเลขลดลงในรอบ 10 ปี
สาเหตุที่ทำให้ตลาดรถบิ๊กไบค์ไม่คึกคัก เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไม่ดี คนมีเงิน แต่ไม่กล้าใช้จ่าย ทำให้ชะลอการซื้อออกไป และอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังซื้ออาจจะไม่แรง หวังพึ่งพาสถาบันการเงิน หรือ ไฟแนนซ์ หรือ ลีสซิ่ง ในกลุ่มนี้จะเจอความเข้มงวดในการพิจารณา เนื่องจากผู้ให้บริการสินเชื่อต่าง ๆ หวั่นเกรงเรื่องหนี้เสีย
ขณะเดียวกัน การแข่งขันของรถยนต์ ทั้งเรื่องแคมเปญ ดอกเบี้ย ราคา มีผลทำให้บางส่วนที่เดิมทีอาจจะมองรถบิ๊กไบค์ แต่เมื่อเห็นเงื่อนไขของรถยนต์ เลยตัดสินใจซื้อรถยนต์แทน เนื่องจากมองว่า คุ้มค่าและอรรถประโยชน์ต่าง ๆ มีมากกว่า
ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานี้ ล้วนทำให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรม 2 ล้อ ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีลเลอร์ หรือ ผู้นำเข้าต่าง ๆ ที่ต้องคิดแผน งัดกลยุทธ์ออกมาเพื่อให้อยู่รอด
ตัวอย่างที่เห็นตอนนี้ คือ ค่ายบริทไบค์ของ ดอม เหตระกูล ที่เดิมเป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ แต่หลังจากบริษัทแม่เข้ามาทำตลาดเอง บริทไบค์ได้ปรับแผนมาเป็นเพียงดีลเลอร์ ปัจจุบัน มีโชว์รูมและศูนย์บริการที่จำหน่ายไทรอัมพ์ 3 แห่ง ได้แก่ อาร์ซีเอ, วิภาวดีฯ, เชียงใหม่ ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะมีการปรับโชว์รูมสาขาอาร์ซีเอให้เป็นศูนย์บริการอย่างเดียว และจะมีหน้าร้านแห่งเดียวในกรุงเทพฯ คือ สาขาวิภาวดีฯ ที่เพิ่งแกรนด์โอเพนนิ่งตึกใหม่ไป ส่วนสาขาเชียงใหม่ได้ขยับจากพื้นที่ในเมืองออกมาถนนไฮเวย์ มีการลงทุนกว่า 25 ล้านบาท บนพื้นที่ 370 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้ทั่วถึง
นอกจากแผนดังกล่าวแล้ว 'ดอม' ยังก่อตั้ง บริษัท มอเตอร์ไซเคิล คิงดอม จำกัด ที่ดูแลแบรนด์รถ "เอ็มวี ออกุสต้า" รวมไปถึงทำธุรกิจอีเวนต์ และล่าสุด ได้เปิดโครงการมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ บนถนนวิภาวดี ที่ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับโครงการมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ จะมีโชว์รูม Triumph’s World ชั้น 2 ส่วนชั้น 6 จะเป็นพื้นที่ของโชว์รูม เอ็มวี ออกุสต้า (MV Agusta) และยังมีบริการหลังการขายของทั้ง 2 แบรนด์ บริเวณชั้น 3 จะมีร้านค้าปลีก ขายอุปกรณ์ชุดแต่ง แอ็กเซสซอรีของแบรนด์ชั้นนำ ราคาย่อมเยา บริเวณชั้น 5 ช่วงกลางวันจะเปิดเป็นร้านกาแฟ และโค เวิร์กกิ้ง สเปซ ในช่วงเย็นเปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบาร์แอนด์เรสเตอรองต์ และไตรมาส 2 จะผุดโครงการตลาดอาหารเช้าแบบฟู้ดทรัก ในคอนเซ็ปต์ Grab & Go โดยจะรวบรวมอาหารดังเจ้าอร่อยมาให้บริการ อาทิ ขนมครก นํ้าเต้าหู้ โจ๊ก ต้มเลือดหมู
"สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว, การเมืองในประเทศที่ส่งผลต่อรายได้ และยอดขายของทุกภาคธุรกิจ รวมถึงตลาดบิ๊กไบค์ ทำให้เราพยายามมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยพยุงยอดขาย ซึ่งแนวทางที่เราวางแผนและศึกษามากว่า 2 ปี ทำให้เกิดโครงการมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ นี้ขึ้นมา และคาดหวังว่า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะได้สัมผัสกับแบรนด์ของเรา ได้สร้างประสบการณ์และนำไปสู่การสร้างแพสชัน เพื่อขยายเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ" นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิล คิงดอม จำกัด และบริษัท บริทไบค์ จำกัด กล่าวและว่า
"เราไม่ได้สร้างเฉพาะโชว์รูมที่ขายรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่ต้องการจัดสรรพื้นที่ไปสู่การเป็น มิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ (Mixed-Used Complex) เป็นคอมมิวนิตี้ของคนรักรถมอเตอร์ไซค์ และแหล่งแฮงเอาต์ของคนทำงานย่านวิภาวดีฯ ที่จะมานั่งพูดคุย รับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ไม่เพียงเท่านั้น เรามีพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์ จัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถมาใช้พื้นที่นี้ได้"
เป้าหมายของการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ยังไม่เคยสัมผัสแบรนด์ไทรอัมพ์ หรือ เอ็มวี ออกุสต้า ได้มารู้จักและมีประสบการณ์ร่วม แต่ยังมีวัตถุประสงค์อื่น ๆ โดยเฉพาะการเติบโตของทั้ง 2 แบรนด์
"ปีนี้ เฉพาะ 2 แบรนด์ที่เราดูแล อย่าง 'ไทรอัมพ์' จะชูเรื่องบริการหลังการขาย เพราะเราทำมา 12 ปี มีความพร้อมด้านต่าง ๆ ทั้งอะไหล่ เครื่องไม้เครื่องมือ ความเชี่ยวชาญของบุคลากร ซึ่งเราเชื่อว่า การบริการที่ดี การทำให้รถพร้อมขี่ จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และไม่หนีไปไหน ส่วน "เอ็มวี ออกุสต้า" เนื่องจากเป็นรถที่นำเข้ามา ไม่ได้มีการผลิตจากโรงงานในประเทศ ทำให้ราคาจำหน่ายสูง โดยเริ่มต้นที่ 8.7 แสนบาท ดังนั้น ในปีนี้จะต้องมาดูแลเรื่องการเพิ่มรายได้" ดอม กล่าว
ถือเป็นอีกทางรอดที่ผู้ประกอบการรายนี้มองเห็น อย่างไรก็ดี ในแวดวง 2 ล้อ ก่อนหน้านั้น ได้มีการปรับรูปแบบของโชว์รูมให้มีความไลฟ์สไตล์ มีความแตกต่าง ยกตัวอย่าง ค่าย เอ.พี.ฮอนด้า ที่จับมือร่วมกับ เกรย์ฮาวด์ เปิดร้านคับ เฮาส์ (CUB House) โดยสาขาแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ย่านเอกมัย และเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมา
สำหรับ คับ เฮาส์ (CUB House) มิใช่แค่โชว์รูมที่ขายจักรยานยนต์ของฮอนด้าเท่านั้น แต่ภายในร้านจะมีสินค้าอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อาทิ ชุดแต่งจากแบรนด์ดังระดับโลก มีทีมงานที่ช่วยแนะนำ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการแต่งในรูปแบบต่าง ๆ, มีเสื้อผ้า, หมวกกันน็อก รวมไปถึงมีรถรุ่นพิเศษ มาเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ ขณะเดียวกัน พื้นที่ในร้านยังมีโซนคาเฟ่ เครื่องดื่ม และอาหารเมนูพิเศษที่ทำขึ้นมาเฉพาะจากเกรย์ฮาวด์
ปัจจุบัน มีสาขา 9 แห่ง กระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ อุดรธานี, ขอนแก่น, ชลบุรี, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, เชียงราย, หาดใหญ่, เชียงใหม่ และตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 จะเปิดให้บริการจำนวน 40 แห่ง
"คับ เฮาส์ จะช่วยเสริมความเป็นไลฟ์สไตล์ เพราะจะมีทั้งรถจักรยานยนต์ในรุ่นตำนานอย่าง มังกี้ และ ซี 125 พร้อมทั้งแฟชั่นต่าง ๆ ทั้งของคนและของรถ รวมไปถึงอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราสามารถขยายเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากขึ้น" นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้าฯ กล่าว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,448 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2562