จากเยอรมนีสู่ปทุมธานี...ตะบัน"ปอร์เช่ 100 ล้าน"

กลับมาอีกครั้งสำหรับเทศกาลกระซวกตับไต กระตุ้นเลือดลมของฝูงสปอร์ตคาร์ระดับโลก Porsche World Roadshow คราวนี้ “ปอร์เช่ เอจี เยอรมนี” กับ “เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส” ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เลือกสนามปทุมธานี สปีดเวย์ เป็นสังเวียนเดือดในการปลดปล่อยฝูงม้ากว่า 5,000 ตัว รวมมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท

Porsche World Roadshow 2019 จัดระหว่าง วันที่ 15-24 กุมภาพันธ์ ถือเป็นงานที่ผู้สื่อข่าวและลูกค้า ตั้งตารอให้กลับมาจัดที่เมืองไทยอีกครั้ง(ไม่ได้จัดกันทุกปี) ในส่วนลูกค้าถ้าต้องการร่วมกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายท่านละ 1.5 หมื่นบาทจากราคาเต็ม 2.5 หมื่นบาท ซึ่งไม่น่ามีปัญหากับเศรษฐีไทยเท้าขวาหนัก เพราะกิจกรรมลักษณะนี้ในต่างประเทศต้องจ่ายแพงกว่านี้มาก

Porsche World Roadshow 2019 จัดระหว่าง วันที่ 15-24 กุมภาพันธ์ ถือเป็นงานที่ผู้สื่อข่าวและลูกค้า ตั้งตารอให้กลับมาจัดที่เมืองไทยอีกครั้ง(ไม่ได้จัดกันทุกปี) ในส่วนลูกค้าถ้าต้องการร่วมกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายท่านละ 1.5 หมื่นบาทจากราคาเต็ม 2.5 หมื่นบาท ซึ่งไม่น่ามีปัญหากับเศรษฐีไทยเท้าขวาหนัก เพราะกิจกรรมลักษณะนี้ในต่างประเทศต้องจ่ายแพงกว่านี้มาก

[caption id="attachment_391899" align="aligncenter" width="503"] เซอร์ไพรส์เล็กๆ กับ 992 ที่นำเข้ามาอวดโฉมงานนี้โดยเฉพาะ[/caption]



[caption id="attachment_391940" align="aligncenter" width="503"] ตัวแรง 911 GT3[/caption]

หนึ่งวันเต็มๆครับกับการทดสอบสมรรถนะรถยนต์ปอร์เช่หลายรุ่น และเน้นตัวแรงทั้งนั้น โดยรถกลุ่มนี้เป็นรุ่นพวงมาลัยซ้ายที่ปอร์เช่ เอจี นำเข้ามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทั้ง 911 GT3, 911 Targa 4 GTS, 911 Turbo,Cayenne Turbo ,Panamera Turbo Sport Turismo, Panamera GTS, 718 Boxster GTS, 718 Cayman GTS และ Macan S

ปีนี้ลูกค้าที่ซื้อบัตรเข้างาน นอกจากจะได้ขับปอร์เช่แบบเต็มๆ แล้ว ยังมีของแถมพิเศษคือ การเจอตัวเป็นๆของ911โฉมใหม่ (992) ที่นำมาแสดงเป็นครั้งแรกในเอเชีย ก่อนมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2019 ปลายเดือนมีนาคมนี้

เรียกว่ามีเวลาได้สัมผัสพร้อมทำความรู้จัก 992 อย่างเต็มที่ในทุกมิติของการพัฒนา เพียงแต่ไม่ได้ทดลองขับเท่านั้นเอง

ผมมีโอกาสร่วมงาน Porsche World Roadshow ครั้งก่อนๆ ค่อนข้างประทับใจในอีเวนต์ที่บริหารจัดการดี และครูฝึกมืออาชีพจากเยอรมนีพยายามเต็มที่ในการให้ความรู้ใหม่ๆ สอนเทคนิคการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ตะบันสปอร์ตคาร์รุ่นต่างๆแบบไม่หวงรถ บนเงื่อนไขความปลอดภัยสูงสุด (อาจจะเป็นห่วงยางล้อบ้าง แต่คราวนี้ได้ผู้สนับสนุนอย่างมิชลินที่ให้ยางมาใช้ในอีเวนต์นี้ 300 เส้น)

ผมประเดิมสถานีแรก “การเบรก”ด้วย 911 (997) เทอร์โบ 540 แรงม้า (ราคาประมาณ 20 ล้านบาท) ที่คนขับต้องกระทืบแป้นเบรกลงไปเต็มแรง แล้วควบคุมพวงมาลัยหักเลี้ยวไปในช่องทางที่กำหนด

เหนืออื่นใด ผู้ฝึกสอนแอบเอาใจผู้สื่อข่าวด้วยการให้สัมผัสอารมณ์ออกตัวแบบพุ่งทะยาน “ลอนช์คอนโทรล” (Launch Control) เริ่มต้นกระบวนการด้วยการปรับโหมดการขับขี่ไปที่ “สปอร์ต พลัส” แล้วเท้าซ้ายเหยียบแป้นเบรกให้มิด ส่วนเท้าขวาเหยียบคันเร่งคาเอาไว้จนรอบเครื่องยนต์ดีดเกิน 5,000 รอบ จากนั้นค่อยยกเท้าออกจากแป้นเบรก ฉับพลันทันทีรถจะออกตัวแบบกระฟัด กระเฟียด สมใจผู้ขับที่ชอบอาการกระชากหลังติดเบาะ

ในสถานีเดียวกันนี้ ยังมีการทดสอบการทรงตัวแบบ “มูสเทสต์” (ในยุโรปบางภูมิประเทศมี “กวางมูส” ออกมาเซอร์ไพรส์กลางถนนบ่อย เลยใช้ชื่อนี้เป็นหนึ่งในมาตรฐานทดสอบความปลอดภัยเสียเลย) ด้วยการหักหลบสิ่งกีดขวางแบบกะทันหัน บนความเร็วประมาณ 90-100 กม./ชม.

[caption id="attachment_391900" align="aligncenter" width="503"] 911 Targa 4 GTS[/caption]

ภายใต้ 911 Targa 4 GTS ชุดหลังคาสุดเท่ ขุมพลัง 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 450 แรงม้าให้จินตนาการว่าหากมีคน สัตว์ สิ่งขวาง ทะลึ่งออกมาขวางบนถนนแบบกะทันหัน หลังจากตกใจแล้วคนขับต้องรีบยกคันเร่ง แล้วมองทิศทางที่จะมุ่งไป หักเลี้ยวพวงมาลัยทันที(ไม่ต้องเบรก) ซึ่งรอบแรกของการทดสอบจะเปิดระบบควบคุมการทรงตัว PSM (Porsche Stability Management) แน่นอนว่า รถคิดแทนเราพร้อมสั่งการไปยังระบบเบรก(ในล้อที่จำเป็น) ลดกำลังของเครื่องยนต์ การตอบสนองของพวงมาลัย ช่วยให้ตัวรถไม่ไถล พร้อมดึงกลับมาในเส้นทางที่ควรจะเป็นได้ง่าย

ส่วนรอบ 2 เปลี่ยนเป็น PSM แบบสปอร์ต ขับในลักษณะเดียวกัน แต่ระบบจะอนุญาตให้รถดิ้นหรือท้ายปัดเล็กน้อย และสุดท้ายคือปิด PSM แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเมื่อหักหลบแล้ว ผู้ขับจะควบคุมรถให้กลับมาได้ยาก (ถ้าเป็นเหตุการณ์บนท้องถนนจริงๆ คงตกข้างทางไปแล้ว) ดังนั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงสุดในการแก้ไข เช่น เทคนิคควบคุมพวงมาลัยในทิศทางตรงกันข้าม และเดินคันเร่งสู้

นอกจากทดสอบการเบรกและการทรงตัวแล้ว ยังมีสถานี “สลาลอม” ที่ใช้ 718 บ๊อกสเตอร์ จีทีเอส โรดสเตอร์ 2 ที่นั่ง แบบเปิดหลังคา(ผ้าใบ) เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบ 365 แรงม้า แบบวางกลางลำ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.3 วินาที เอาไว้ขับแข่งจับเวลา หรือได้ลองใช้ความรู้ต่างๆที่เรียนมา วัดผลสอบภาคปฏิบัติกันที่สถานีนี้

[caption id="attachment_391938" align="aligncenter" width="503"] 718 บ๊อกสเตอร์ จีทีเอส[/caption]

สำหรับPorsche World Roadshowไม่ใช่อีเวนต์ที่สนับสนุนให้คนขับรถเร็วครับ แต่หลักๆคือคุณต้องรู้จักรถที่คุณขับว่า ลักษณะทางกายภาพเป็นอย่างไร สมรรถนะระดับไหน มีฟังก์ชันช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยอะไรบ้าง เพื่อประเมินการขับขี่ได้อย่างเหมาะสมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เรียนรู้ และฝึกฝน หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน คุณจะได้ใช้ประสบการณ์แก้ไขปัญหาได้ทัน

โดย กรกิต กสิคุณ

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3446 ระหว่างวันที่ 21 - 23 กุมภาพันธ์ 2562