Play
ฮุนไดกางแผนปี59 ตั้งเป้าขาย 4.3 พันคัน
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ฮุนไดชูกลยุทธ์เปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น ประเดิม เอช-1 /แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ และรถยนต์นั่งในช่วงปลายปี พร้อมขยายเครือข่ายครบ 28 แห่งทั่วประเทศ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ มั่นใจสิ้นปียอดขายเข้าเป้า 4.3 พันคัน
นาย ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัดผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 7.5–7.8 แสนคัน ขณะที่เป้าหมายยอดขายของฮุนไดคาดว่าจะทำได้ 4.3 พันคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มียอดขาย 4,227 คัน โดยยอดขายหลักๆจะมาจากฮุนได เอช 1 และฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ คิดเป็นจำนวนกว่า 3.5 พันคัน ส่วนอีก 800 คันจะมาจากรุ่นอื่นๆ
"เราตั้งเป้าหมายเติบโตเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากหลายปีก่อนเรามีการตั้งเป้าหมายที่สูง แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ หรือปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ และยังส่งผลต่อเนื่องทำให้ดัชนีผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ในปีนี้เราต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา"
นายยานากิซาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ที่จะทำให้บริษัทไปสู่เป้าหมายได้นั้น ประกอบไปด้วยแผนงานด้านรถใหม่ ที่จะเปิดตัว 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่ รถธงในรุ่น เอช-1 และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ซึ่งรถในเซ็กเมนต์นี้มียอดขายที่เติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด และในช่วงปลายปีจะมีรถยนต์นั่งรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น สำหรับเอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้นมีการออกแบบภายนอก-ภายในใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi เทอร์โบแปรผัน VGT และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังม้าสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อม Sequential shift
โดย เอช-1 ใหม่ มี 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Touring ราคา 1.289 ล้านบาท, Elite ราคา 1.499 ล้านบาท และ Deluxe ราคา 1.679 ล้านบาท ส่วน แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น VIP ราคา 2.399 ล้านบาท และ Premium ราคา 2.349 ล้านบาท
"ส่วนแบ่งการตลาดของเอช-1 และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ มีกว่า 57% ถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถเอ็มพีวี หรือรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ โดยตลาดนี้มีจำนวนยอดขายในแต่ละปีประมาณ 1 หมื่นคัน และในปีนี้บริษัทก็ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้อยู่ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา บริษัทก็จะมีการสื่อสารการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ "For Life Experience" และได้ให้บอย โกสิยพงษ์มาแต่งเพลงพิเศษที่ชื่อว่า "เคียงกัน" โดยมี "ตู่ ภพธร" มาถ่ายทอดเพลงดังกล่าว
ส่วนแผนงานต่อมาคือการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการหลังการขาย โดยปัจจุบันฮุนได้มีจำนวนโชว์รูม 25 แห่งทั่วประเทศ และภายในสิ้นปีจะขยายเพิ่มอีก 3 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
แผนงานสุดท้ายที่จะเน้นในปีนี้คือ ปรับปรุงด้านการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ฮุนไดให้มีความแข็งแกร่ง โดยจะสื่อสารผ่านแคมเปญ Confidence หรือความเชื่อมั่น ทั้งนี้เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าคนไทยได้รับรู้ถึงแบรนด์ฮุนไดว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ที่ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพและการให้บริการ
นายยานากิซาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 สำหรับฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)โดยปัจจุบันมีประชากรรถฮุนไดในไทยแล้วกว่า 2.7 หมื่นคัน ซึ่งบริษัทจะยังคงเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับที่ดี และสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
"ขณะที่ความสนใจเกี่ยวกับการตั้งโรงงานประกอบในไทยนั้น ในตอนนี้ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน โดยอยู่ในระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตามไทยถือว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพ ประกอบกับฮุนไดยังไม่มีโรงงานอยู่ในภูมิภาคนี้ ส่วนโรงงานที่มาเลเซีย และอินโดนีเซียนั้นไม่ใช่โรงงานโดยตรง ปัจจุบันฮุนไดมีการนำเข้ารถมาจากโรงงานเกาหลีในรุ่น ทูซอน, เวลอสเตอร์ และเอช- 1 ในบางรุ่น ส่วนเอลันตร้ามีการนำเข้ามาจากมาเลเซียและเอช -1 พร้อมทั้งแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2559
นาย ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัดผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 7.5–7.8 แสนคัน ขณะที่เป้าหมายยอดขายของฮุนไดคาดว่าจะทำได้ 4.3 พันคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มียอดขาย 4,227 คัน โดยยอดขายหลักๆจะมาจากฮุนได เอช 1 และฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ คิดเป็นจำนวนกว่า 3.5 พันคัน ส่วนอีก 800 คันจะมาจากรุ่นอื่นๆ
"เราตั้งเป้าหมายเติบโตเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากหลายปีก่อนเรามีการตั้งเป้าหมายที่สูง แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ หรือปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ และยังส่งผลต่อเนื่องทำให้ดัชนีผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ในปีนี้เราต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา"
นายยานากิซาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ที่จะทำให้บริษัทไปสู่เป้าหมายได้นั้น ประกอบไปด้วยแผนงานด้านรถใหม่ ที่จะเปิดตัว 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่ รถธงในรุ่น เอช-1 และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ซึ่งรถในเซ็กเมนต์นี้มียอดขายที่เติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด และในช่วงปลายปีจะมีรถยนต์นั่งรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น สำหรับเอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้นมีการออกแบบภายนอก-ภายในใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi เทอร์โบแปรผัน VGT และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังม้าสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อม Sequential shift
โดย เอช-1 ใหม่ มี 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Touring ราคา 1.289 ล้านบาท, Elite ราคา 1.499 ล้านบาท และ Deluxe ราคา 1.679 ล้านบาท ส่วน แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น VIP ราคา 2.399 ล้านบาท และ Premium ราคา 2.349 ล้านบาท
"ส่วนแบ่งการตลาดของเอช-1 และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ มีกว่า 57% ถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถเอ็มพีวี หรือรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ โดยตลาดนี้มีจำนวนยอดขายในแต่ละปีประมาณ 1 หมื่นคัน และในปีนี้บริษัทก็ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้อยู่ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา บริษัทก็จะมีการสื่อสารการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ "For Life Experience" และได้ให้บอย โกสิยพงษ์มาแต่งเพลงพิเศษที่ชื่อว่า "เคียงกัน" โดยมี "ตู่ ภพธร" มาถ่ายทอดเพลงดังกล่าว
ส่วนแผนงานต่อมาคือการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการหลังการขาย โดยปัจจุบันฮุนได้มีจำนวนโชว์รูม 25 แห่งทั่วประเทศ และภายในสิ้นปีจะขยายเพิ่มอีก 3 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
แผนงานสุดท้ายที่จะเน้นในปีนี้คือ ปรับปรุงด้านการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ฮุนไดให้มีความแข็งแกร่ง โดยจะสื่อสารผ่านแคมเปญ Confidence หรือความเชื่อมั่น ทั้งนี้เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าคนไทยได้รับรู้ถึงแบรนด์ฮุนไดว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ที่ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพและการให้บริการ
นายยานากิซาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 สำหรับฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)โดยปัจจุบันมีประชากรรถฮุนไดในไทยแล้วกว่า 2.7 หมื่นคัน ซึ่งบริษัทจะยังคงเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับที่ดี และสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
"ขณะที่ความสนใจเกี่ยวกับการตั้งโรงงานประกอบในไทยนั้น ในตอนนี้ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน โดยอยู่ในระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตามไทยถือว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพ ประกอบกับฮุนไดยังไม่มีโรงงานอยู่ในภูมิภาคนี้ ส่วนโรงงานที่มาเลเซีย และอินโดนีเซียนั้นไม่ใช่โรงงานโดยตรง ปัจจุบันฮุนไดมีการนำเข้ารถมาจากโรงงานเกาหลีในรุ่น ทูซอน, เวลอสเตอร์ และเอช- 1 ในบางรุ่น ส่วนเอลันตร้ามีการนำเข้ามาจากมาเลเซียและเอช -1 พร้อมทั้งแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2559