เอ็มจี ประเดิมยอดมกราคมโต 103%

10 มี.ค. 2561 | 08:27 น.
ค่ายเอ็มจีอวดยอดขายเดือนมกราคมโต103% แซงหน้าซูซูกิ-เชฟโรเลต ปลื้มเอสยูวี “แซดเอส” ยอดพุ่ง พร้อมเดินหน้าผุดโชว์รูมและศูนย์บริการ 100-120 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมโมเดลใหม่ 2 รุ่นทำตลาด

ถือเป็นค่ายรถน้องใหม่ที่มาแรงสำหรับค่ายเอ็มจี หลังจากปี 2560 ได้ประกาศผลดำเนินงานด้วยยอด 12,014 คัน เติบโต 45% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยแบ่งสัดส่วนการขายออกเป็น MG3 จำนวน 6,033 คัน, MG GS จำนวน 2,328 คัน, MG5 จำนวน 2,451 คัน, MG6 จำนวน 433 คัน และ NEW MG ZS จำนวน 768 คัน (ยอดขายเฉพาะเดือนธันวาคม 2560 เพียงเดือนเดียว)

[caption id="attachment_265854" align="aligncenter" width="503"] พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์[/caption]

ส่วนเป้าหมายการขายในปี 2561 เอ็มจี ตั้งไว้ที่ 3 หมื่นคัน ซึ่งผ่านมาเดือนแรกของปี ก็สามารถทำยอดขายแซงเชฟโรเลต และซูซูกิ ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 9 (จากเดิมปี 2559 อยู่อันดับ 10) โดยยอดขายที่ทำได้คือ 1,471 คัน เติบโต 102.9 % และรถที่ขายดียังคงเป็น NEW MG ZS ที่มีสัดส่วนมากกว่า 50% ของยอดขายรวมทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวน 721 คัน รองลงมาคือ MG3 จำนวน 463 คัน , MG GS จำนวน 209 คัน MG5 จำนวน 62 คัน และ MG6 จำนวน 16 คัน

“จนถึงสิ้นปีนี้ ยอดขายของ NEW MG ZS ยังคงมีมากกว่า 50% เพราะรถของเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ ระบบ ไอ-สมาร์ท รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ถือเป็นอินเตอร์เน็ตคาร์คันแรก และเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยตัวเลขแบ็กออร์เดอร์ในตอนนี้มีกว่า 3,500 คัน ซึ่งเราพยายามเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งมอบรถให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่สั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว และ ว่า

ขณะเดียวกันแผนงานเกี่ยวกับสินค้ารุ่นใหม่ในปีนี้ จะมี 2 รุ่น ซึ่งจะมีทั้งโมเดลใหม่ และไมเนอร์เชนจ์ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 แผนงานต่อมาได้เตรียมขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 80 แห่ง ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 แห่งภายในสิ้นปี และจะมีรถโมบาย เซอร์วิสที่ดูแลลูกค้าให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ

“ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโต โดยปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทั้งภาคเอกชน และภาครัฐฯ, การขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว, การส่งออก, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, ราคาพืชผลทางการเกษตรก็น่าจะปรับตัวดีเพราะภาครัฐฯพยายามอุดช่องโหว่และให้ความช่วยเหลือ ส่งผลให้กำลังซื้อในกลุ่มรากหญ้าดีขึ้น โดยประเมินว่ายอดขายรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้จะทำได้ 9.5 แสนคัน” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป

สำหรับตลาดรถยนต์รวมเดือนมกราคมที่ผ่านมาขายได้ 66,545 คัน เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยรถยนต์นั่งโต 27.3% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โต 10.2%

ขณะที่ยอดขายอันดับ 1 โตโยต้า ทำได้ 17,138 คัน โต 13.4% อันดับ 2 อีซูซุ 12,233 คัน ลดลง -7.3% อันดับ 3 ฮอนด้า 9,109 คัน ขยายตัว +15.8% ตามด้วย มิตซูบิชิ, ฟอร์ด, นิสสัน, มาสด้า และอันดับ 8 เอ็มจี ส่วนอันดับ 9 และ 10 เป็นของ ซูซูกิกับ เชฟโรเลต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,346 วันที่ 8 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว