Play
ซีทีเอสเล็งนำแบรนด์ไทยตีตลาดโลก
ซีทีเอส ประกาศแผนรุกตลาดปี 2561 เตรียมงบลงทุนกว่า 35 ล้านบาท บุกพนมเปญ-เวียงจันทน์ พร้อมศึกษาตลาดอังกฤษ ก่อนเปิดปี 2562
ธุรกิจศูนย์บริการดูแลปกป้องและเคลือบสีรถยนต์แบบครบวงจรในไทยมีหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีหลังที่มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ดีในกลุ่มพรีเมียมคาร์ หรือ ซูเปอร์คาร์ มักจะได้ยินชื่อแบรนด์ ซีทีเอส (CTS) ที่บริหารงานโดย บริษัท คริสตัล ซิลด์ โปรเฟสชั่นนอลคาร์โค้ทติ้ง จำกัด ซึ่งปัจจุบัน ซีทีเอส มีสาขาที่ให้บริการ ได้แก่ สำนักงานใหญ่บนถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ,เมืองทองธานี และมีเซอร์วิส -เซ็นเตอร์ที่ รัชดาภิเษก ,บางนา และ เอ็นเค ออโต้ อเวนิว ส่วนเร็วๆนี้กำลังพิจารณาเพื่อขยายสาขาไปยังพื้นที่ย่านพระราม 2 ,พระราม 3 หรือราชพฤกษ์
ขณะที่สาขาต่างประเทศ ล่าสุดได้ลงทุน 35 ล้านบาท เปิดสาขาที่ ทีเค อเวนิวย่านใจกลางเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
[caption id="attachment_255251" align="aligncenter" width="503"]
ธีรรัตน์ จงประเสริฐ กรรมการบริหาร บริษัท คริสตัล ซิลด์โปรเฟสชั่นนอลคาร์โค้ทติ้ง จำกัด[/caption]
โดยนางธีรรัตน์ จงประเสริฐ กรรมการบริหาร บริษัท คริสตัล ซิลด์โปรเฟสชั่นนอลคาร์โค้ทติ้ง จำกัด ศูนย์บริการดูแลปกป้องและเคลือบสีรถยนต์แบบครบวงจร The CTS Group กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีลูกค้าจากประเทศกัมพูชาได้นำรถเข้ามารับบริการที่ประเทศไทย ทำให้เห็นโอกาสทางการตลาดและตัดสินใจเข้ามาเปิดสาขาในต่างประเทศเป็นแห่งแรกที่พนมเปญ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร มีช่องจอดที่รองรับรถได้สูงสุดถึง 20 คันต่อวัน รองรับกลุ่มเป้าหมายคือ รถไฮเอนด์ ซูเปอร์คาร์ รวมไปถึงกลุ่มโชว์รูมรถยนต์
“ลูกค้าที่พนมเปญมีการใช้รถซูเปอร์คาร์เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงรถจำพวกแลนด์โรเวอร์ ,เรนจ์โรเวอร์,แลนด์ครุยเซอร์, โรลส์-รอยซ์ โดยเราตั้งเป้าหมายว่าจะมีรถเข้ามาใช้บริการปีแรก 3,000 คัน ส่วนแพ็กเกจ การให้บริการจะเหมือนเมืองไทย อาทิ CSA Program พ่นเคลือบคริสตัลแท้ตามแบบฉบับญี่ปุ่น ฟรีเมทาแนนซ์ 3 ปี ราคาเริ่มต้น 3.7 หมื่นบาท-สูงสุด 1.5 แสนบาท ”
นอกจากสาขาแรกที่พนมเปญแล้ว ในช่วงกลางปีนี้จะเปิดสาขาที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว และมีแผนจะไปเปิดที่ลอนดอน อังกฤษ
“ปีนี้เราวางงบลงทุนมากกว่า 35 ล้านบาทซึ่งตลาดที่เราโฟกัสจะอยู่ที่พนมเปญ หลังจากนั้นจะบุกตลาดลาว หรือที่ เวียงจันทน์ คาดว่าจะเห็นเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนส่วนที่อังกฤษ เรามีการศึกษาถึงพฤติกรรมของลูกค้าและสภาพอากาศซึ่งไม่ได้แตกต่างจากเมืองไทยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี”
นางธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ เนื่องจากมั่นใจในจุดแข็งของซีทีเอส โดยเฉพาะการใช้นํ้าแร่ซิลิกาจากเครื่อง Ceramic pure water ในการล้างคราบมลพิษบนสีรถ หลังจากนั้นจะพ่นเคลือบสีผิวรถด้วยสารซิลิกา (SiO2) พร้อมระบบการอบภายในห้องอบ Hybrid Ultra Violet และยังมีบริการติดตั้ง SPACE GUARD PPF WINDSHIELD ฟิล์มใสนิรภัยและอีกหนึ่งบริการคือ ABSOLUTE EXPERTISE เคลือบปกป้องภายใน ที่สามารถเคลือบเบาะหนังแท้ หนังอาคันทาร่า และชิ้นส่วนคอนโซลต่างๆ ภายในรถได้ทั้งหมด
“เราเปิดให้บริการมากว่า 12 ปีแล้ว และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์คาร์ หรือมากกว่า 2,000 คัน ส่วนรถในกลุ่มพรีเมียมคาร์ก็มี เมื่อรวมๆกันแล้วก็กว่า 1 หมื่นคัน โดยเฉลี่ยลูกค้านำรถเข้ามารับบริการจากเราประมาณ 6,000 คันต่อปี และมีการใช้จ่ายกว่า 2 หมื่นบาทต่อคัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,336 วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ธุรกิจศูนย์บริการดูแลปกป้องและเคลือบสีรถยนต์แบบครบวงจรในไทยมีหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีหลังที่มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ดีในกลุ่มพรีเมียมคาร์ หรือ ซูเปอร์คาร์ มักจะได้ยินชื่อแบรนด์ ซีทีเอส (CTS) ที่บริหารงานโดย บริษัท คริสตัล ซิลด์ โปรเฟสชั่นนอลคาร์โค้ทติ้ง จำกัด ซึ่งปัจจุบัน ซีทีเอส มีสาขาที่ให้บริการ ได้แก่ สำนักงานใหญ่บนถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ,เมืองทองธานี และมีเซอร์วิส -เซ็นเตอร์ที่ รัชดาภิเษก ,บางนา และ เอ็นเค ออโต้ อเวนิว ส่วนเร็วๆนี้กำลังพิจารณาเพื่อขยายสาขาไปยังพื้นที่ย่านพระราม 2 ,พระราม 3 หรือราชพฤกษ์
ขณะที่สาขาต่างประเทศ ล่าสุดได้ลงทุน 35 ล้านบาท เปิดสาขาที่ ทีเค อเวนิวย่านใจกลางเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
[caption id="attachment_255251" align="aligncenter" width="503"]
โดยนางธีรรัตน์ จงประเสริฐ กรรมการบริหาร บริษัท คริสตัล ซิลด์โปรเฟสชั่นนอลคาร์โค้ทติ้ง จำกัด ศูนย์บริการดูแลปกป้องและเคลือบสีรถยนต์แบบครบวงจร The CTS Group กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีลูกค้าจากประเทศกัมพูชาได้นำรถเข้ามารับบริการที่ประเทศไทย ทำให้เห็นโอกาสทางการตลาดและตัดสินใจเข้ามาเปิดสาขาในต่างประเทศเป็นแห่งแรกที่พนมเปญ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร มีช่องจอดที่รองรับรถได้สูงสุดถึง 20 คันต่อวัน รองรับกลุ่มเป้าหมายคือ รถไฮเอนด์ ซูเปอร์คาร์ รวมไปถึงกลุ่มโชว์รูมรถยนต์
นอกจากสาขาแรกที่พนมเปญแล้ว ในช่วงกลางปีนี้จะเปิดสาขาที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว และมีแผนจะไปเปิดที่ลอนดอน อังกฤษ
“ปีนี้เราวางงบลงทุนมากกว่า 35 ล้านบาทซึ่งตลาดที่เราโฟกัสจะอยู่ที่พนมเปญ หลังจากนั้นจะบุกตลาดลาว หรือที่ เวียงจันทน์ คาดว่าจะเห็นเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนส่วนที่อังกฤษ เรามีการศึกษาถึงพฤติกรรมของลูกค้าและสภาพอากาศซึ่งไม่ได้แตกต่างจากเมืองไทยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี”
“เราเปิดให้บริการมากว่า 12 ปีแล้ว และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์คาร์ หรือมากกว่า 2,000 คัน ส่วนรถในกลุ่มพรีเมียมคาร์ก็มี เมื่อรวมๆกันแล้วก็กว่า 1 หมื่นคัน โดยเฉลี่ยลูกค้านำรถเข้ามารับบริการจากเราประมาณ 6,000 คันต่อปี และมีการใช้จ่ายกว่า 2 หมื่นบาทต่อคัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,336 วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
