บุกฐานผลิต CNH@ITALYโรงงานเครื่องจักรกลหนักCASE

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เครื่องจักรกลหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ แบรนด์ เคส จากประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับบริษัท เคส คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนพร้อมทั้งลูกค้าร่วมเยี่ยมชมฐานการผลิต ณ ประเทศอิตาลี

สำหรับ เคส เป็นแบรนด์ของ ซีเอ็นเอช อินดัสเตรียล กรุ๊ป ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีคศ.1842 ที่รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ซึ่งหากนับรวมอายุจนถึงปีปัจจุบัน พวกเขามีอายุกว่า 175 ปีแล้ว ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลหนักที่มีสินค้าครอบคลุมมากกว่า 90 รุ่น มีเครือข่ายการผลิตทั่วโลก โดยมี 13 โรงงาน แบ่งออกเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์ก่อสร้าง 9 แห่ง และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญอีก 3 แห่ง ซึ่งโรงงานแต่ละแห่งจะมีความชำนาญที่แตกต่างกัน

ในประเทศไทย เคส คอนสตรัคชั่น ได้แต่งตั้งให้ บริษัท วัตคินสันฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2558 และเริ่มดำเนินงานพร้อมทั้งเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยมีโมเดลที่ทำตลาดหลักอาทิ รถขุดไฮดรอลิก, รถตักล้อยาง, รถเกลี่ยดิน, รถบดสั่นสะเทือน, รถตักหน้าขุดหลัง,รถตักหน้าล้อยาง

[caption id="attachment_218233" align="aligncenter" width="503"] นีล วูดฟิน[/caption]

“เมื่อดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ และจีดีพี ของไทย ประกอบกับการมีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภค-โครงการเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐ ทำให้เรามองว่าตลาดในไทยยังช่องว่างและมีโอกาสอีกมากในการจะเจาะตลาด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าที่ได้ซื้อรถของเคสไปใช้ มีการตอบรับที่ดี ทั้งความประหยัดนํ้ามัน ที่มีผลต่อกำไรของลูกค้า และอุปกรณ์ต่างๆใช้งานง่ายเช่นเดียวกับการซ่อมแซมที่ไม่ได้ยุ่งยาก ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานอุปกรณ์ของเราได้อย่างเต็มที่

ไม่เพียงเท่านั้น รถของเรายังมีเทคโนโลยี อาทิ SiteControl ที่จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในพื้นที่ทำงานได้ เพราะมีการทำงานอย่างแม่นยำและยืดหยุ่นสูง,ระบบเทเลเมติกส์ของ SiteWatch ที่ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพยาวนาน ด้วยการตรวจสอบข้อมูลสำคัญของเครื่องจักร ส่งผลให้เกิดการผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ” นีล วูดฟิน หัวหน้าผู้ดูแลแบรนด์เครื่อง จักรกลก่อสร้าง CASE ของ CNHI ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวและว่า

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ เคส คอนสตรัคชั่น ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียไม่น้อย ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในแบรนด์ และโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพของสินค้า จึงมีการจับมือกับตัวแทนจำหน่ายในไทย เชื้อเชิญให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้เข้ามาสัมผัสแบรนด์เคส และบริษัทในเครืออย่างใกล้ชิด

จุดหมายแรกที่เราได้สัมผัสคือ CNH Village ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองตูริน โดยพื้นที่แห่งนี้จะมีลานแสดงกลางแจ้งด้านหน้า และมีเครื่องจักรก่อสร้าง และการเกษตร รวมไปถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถที่ใช้บรรเทาสาธารณภัยรูปแบบต่างๆ ที่ผลิตและประกอบโดยซีเอ็นเอช มาจอดโชว์ความยิ่งใหญ่

ส่วนภายในเหมือนโชว์รูมรถขนาดใหญ่ มีการนำรถแบรนด์ต่างๆ Iveco, Case, New Holland มาจอดโชว์เช่นเดียวกับพื้นที่กลางแจ้ง และมีความพิเศษคือ มีรถต้นแบบ และนวัตกรรมเครื่องจักร ,เครื่องยนต์ FPT Industrial มาร่วมโชว์อีกด้วย

นอกจากนั้นแล้วยังมีโซนนิทรรศการ หรือกึ่งๆพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งในโซนนี้จะมีรถตั้งแต่สมัยก่อตั้ง พร้อมทั้งข้อมูลประวัติความเป็นมา อาทิ Unic Type M1A,Fiat 18p,Lancia Omicron, Leoncino, Magirus Sirius, Iveco Daily 35.10 ส่วนบริเวณโดยรอบยังมี โซนร้านอาหาร-สินค้าที่ระลึก, ห้องประชุม, ห้องคอลล์เซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ และด้านหลังมีสนามทดสอบรถ หรือ สามารถจัดอบรมการขับขี่ในแทร็กได้

บริเวณใกล้ๆกันยังมีโรงงาน FPT ซึ่งผลิตเครื่องยนต์, เพลา และระบบส่งกำลัง ป้อนทั้งบริษัทในเครือ และส่งออกให้กับแบรนด์อื่นๆ โดยโรงงานแห่งนี้ได้รับการการันตีถึงคุณภาพในการผลิตระดับ World Class Manufacturing (WCM) และอีกหนึ่งโรงงานที่ได้เยี่ยมชมคือ San Mauro Plant ที่มีความหลากหลายในไลน์การผลิต อาทิ ผลิตรถขุดตีนตะขาบ ,รถขุดขนาดเล็ก ,รถขุดขนาด 20 ตัน

หลังจากนั้นเดินทางล่องใต้ไปยังเมืองเลชเช่ เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องจักร CASE Construction Lecce Plant โดยโรงงานแห่งนี้มีความทันสมัย สามารถประกอบได้ทั้งแบรนด์เคส และนิวฮอลแลนด์ ซึ่งโมเดลหลักๆที่ประกอบได้แก่ รถเกลี่ยดิน, รถยกอเนกประสงค์, รถตักล้อยาง,รถตักหน้าขุดหลัง ซึ่ง 2 โมเดลหลังมีการนำเข้ามาจำหน่ายที่ประเทศไทยอีกด้วย

เรียกได้ว่า ครบถ้วน !!ทั้งไลน์ประกอบ ทั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์ แถมยังได้สัมผัสประวัติความเป็นมาของแบรนด์และบริษัทในเครือ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเป็นการการันตีให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์รวมไปถึงคุณภาพมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

และก่อนจะปิดทริปครั้งนี้ ก็ได้ถามถึงความคาดหวังของบริษัทแม่ที่มีต่อตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่ง “นีล” ก็ได้ทิ้งท้ายว่า “เราต้องการสร้างตำแหน่งทางการตลาดที่มั่นคง และเพิ่มส่วนแบ่งให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทจะทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่ายและมีการสนับสนุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ในระยะเวลาอันใกล้”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560