ค่าเงินบาทวันนี้ปิดตลาด "อ่อนค่า"ที่ระดับ 36.60 บาท/ดอลลาร์ฯ

15 ก.ค. 2565 | 11:47 น.

ค่าเงินบาท "อ่อนค่า"ตามสกุลเงินในเอเชียและเงินหยวน หลังจีดีพีQ2 ของจีนที่ต่ำกว่าคาด-กอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 18-22ก.ค.2565คาดไว้ที่ 36.30-37.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทอ่อนค่าไปที่ระดับ 36.73 บาทต่อดอลลาร์ฯ (เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือน) ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียและเงินหยวน หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของจีนที่ต่ำกว่าที่คาดกระตุ้นความกังวลต่อสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างวันด้วยเช่นกัน (1,063.84 ล้านบาท และ 1,749.03 ล้านบาท ตามลำดับ) 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -21.24 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -17.24 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) 

 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 18-22ก.ค.2565คาดไว้ที่ 36.30-37.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ ข้อมูลการส่งออกของไทยเดือนมิ.ย. ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของธนาคารกลางจีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ 

ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนก.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. และดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนก.ค. ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน