ต่างชาติกลับเข้าหุ้นไทย ดันดัชนีปิดบวก 17.18 จุด

25 ก.พ. 2565 | 10:46 น.

ดัชนีหุ้นไทยรีบราวน์ ปรับตัวขึ้นสอดคล้องตลาดภูมิภาค ยืนในแดนบวดตลอดทั้งวัน โบรกเตือนยังต้องระวัง เหตุสถานการณ์”รัสเซีย-ยูเคร”ยังมีความไม่แน่นอนสูง

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพ์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้(25 ก.พ.65) สามารถยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน ตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งในเอเชีย และยุโรปหลังจากเปิดตลาดบวก จากแรงซื้อกลับในกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก  โดยดัชนีหุ้นไทย ลดลงไปต่ำสุดของวันที่ 1,670.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด และขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,684.50 จุด เพิ่มขึ้น 16.78 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,679.90 จุด เพิ่มขึน 17.18 จุด หรือ 0.03% มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น  87,772.73 ล้านบาท

 

สำหรับการซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มพบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ  777.37 ล้านบาท  บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ  239.75 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 1,460.18 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,477.30 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,412.17 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,206.71 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • OSP มูลค่าการซื้อขาย 2,212.55 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,815.71 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,786.87 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้ เพราะนักลงทุนคลายกังวลกับสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ไม่ได้ขยายเป็นวงกว้าง หลังชาติตะวันตก และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO)ไม่ใช้กำลังทหารตอบโต้ มีแต่มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตาม มองว่า ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูงอยู่ นักลงทุนยังต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน และในสัปดาห์หน้าก็ยังมีปัจจัยอื่นรออยู่ โดยมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา ในวันที่ 2-3 มี.ค. ขณะที่คืนนี้มีตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ของสหรัฐ

 

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ยังมีความผันผวนตามสถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซียและยูเครน หากมีพัฒนาการเชิงบวกตลาดจะปรับขึ้น มองว่าตลาดจะแกว่งตัวไซด์เวย์กรอบกว้าง โดยให้แนวรับที่ 1,670 จุด แนวรับถัดไป 1,660 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,695, 1,700 จุด แต่ก็คาดไม่น่าผ่านแนวต้านหลักที่ 1,700 จุด