แรงงานสั่ง เดอะ วัน ประกันภัย จ่าย 82.6 ล้านบาท กรณีเลิกจ้างลูกจ้าง 354 คน

17 ม.ค. 2565 | 07:52 น.

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ออกคำสั่งฯ ให้บมจ.เดอะ วัน ประกันภัย จ่ายค่าจ้างค้างจ่าย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้าง ค่าชดเชย และเงินแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ให้ลูกจ้าง 354 คน รวมเป็นเงิน 82.6 ล้านบาท ภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2565

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 - 27 ธันวาคม 2564 นายอเนก โพธิ์ศรี กับพวกรวม 354 คน ได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายจ้างเลิกจ้าง โดยค้างจ่ายค่าจ้างของการทำงานวันที่ 11 – 13 ธันวาคม 2564 ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้าง ค่าชดเชย และเงินแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยลูกจ้างกลุ่มนี้โดยให้เร่งรัดดำเนินการ 
 

นิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

ทั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ได้สอบสวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏแล้ว มีคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ที่ 2/2565 ลงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565 สั่งให้บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชี นายจ้าง จ่ายค่าจ้างของการทำงานวันที่ 11 - 13 ธันวาคม 2564 เป็นเงิน 1,012,446.90 บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้าง เป็นเงิน 1,770,327.46 บาท ค่าชดเชย 64,715,348 บาท และเงินแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 15,186,703.50 บาท ให้กับลูกจ้าง 354 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 82,684,825.86 บาท
 

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 14 มกราคม 2565 พนักงานตรวจแรงงาน ได้นำคำสั่งฯ ไปปิดที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และนำคำสั่งฯ ไปส่งมอบให้กองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชี โดยจะครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายให้นายจ้างปฏิบัติตามคำสั่งฯ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 หากเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย นายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและไม่นำคดีไปสู่ศาล (เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าได้ทราบคำสั่ง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะเป็นทนายความแทนนายอเนก โพธิ์ศรี กับพวก ฟ้องคดีกับนายจ้างเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานต่อศาลแรงงานกลาง และให้ลูกจ้างมายื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนก่อน พร้อมทั้งดำเนินคดีอาญานายจ้างฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน