แนะติดตาม 4ปัจจัยชี้ทิศค่าเงินบาท ดัชนีหุ้นไทย 8-12พ.ย.64
กสิกรไทยมองสัปดาห์หน้า 8-12พ.ย.64กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,605 และ 1,595 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะติดตาม 4ปัจจัยสำคัญ“ ผลการประชุมกนง. -ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ -สถานการณ์โควิด-19 - ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ ทั้ง สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน”
ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 8-12พ.ย. 2564 ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมิน ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนต.ค. ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน ทั้งนี้เมื่อ 5 พ.ย. 2564 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 33.31 เทียบกับระดับ 33.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 ต.ค.)
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,605 และ 1,595 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (10 พ.ย.) การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI (11 พ.ย.) สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของบจ.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคเดือนต.ค. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. ของจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของยูโรโซน
โดยดัชนี SET เมื่อวันที่ 5พ.ย.ปิดที่ระดับ 1,626.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.17% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 76,911.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.40% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.05% มาปิดที่ 547.20 จุด
