ไอคอนสยาม ชูแม็กเน็ตดึงทัวริสต์ "Van Gogh Alive" ใหญ่สุดในอาเซียน

13 เม.ย. 2566 | 13:10 น.

ไอคอนสยาม ชูแม็กเน็ตใหม่จับมือ Grande Experiences เปิด “Van Gogh Alive Bangkok” นิทรรศการศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟ ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเปิดประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ยืนหนึ่ง Global Destination ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ไอคอนสยามจับมือกับ Grande Experiences ผู้สร้างและผู้ผลิตเจ้าของลิขสิทธิ์ Van Gogh Alive และ Live Impact Events ผู้ถ่ายทอดและนำเสนอประสบการณ์ระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่

เปิดอาร์ตแอทแทรกชั่น “แวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก” (Van Gogh Alive Bangkok) นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

ไอคอนสยาม ชูแม็กเน็ตดึงทัวริสต์ "Van Gogh Alive" ใหญ่สุดในอาเซียน

ทั้งนี้แวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก เป็นนิทรรศการศิลปะดิจิทัลระดับเวิลด์คลาสที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก จัดแสดงครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้ -31 ก.ค. 2566 เป็นระยะเวลา 4 เดือน ถือเป็นการจัดแสดงนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย

โดยมั่นใจว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากผู้ที่สนใจงานศิลปะได้สัมผัส เรียนรู้ และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจใหม่ๆ พร้อมจะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ได้แวะเวียนให้มาเที่ยวชมนิทรรศการและมาเยี่ยมชมไอคอนสยามไปพร้อมกัน คาดผู้เข้าชม 1,000-2,000 คนต่อวัน ตั้งเป้ารองรับลูกค้าเข้าศูนย์วันละกว่า 1 แสน-1.2 แสนคน

ทั้งนี้ไอคอนสยาม มีนิทรรศการ หมุนเวียนมาจัดแสดงในพื้นที่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ครั้งต่อปี โดยมีนิทรรศการที่โดดเด่นและได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากมาย อาทิ นิทรรศการ “แสงแรกแห่งศักราชใหม่ สู่ทศวรรษที่ 7 ของศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์

เปิดนิทรรศการศิลปะ “พุทธศิลปกรรมเชียงราย” จัดโดย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง วัดร่องขุ่น ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน และกลุ่มศิลปินเชียงราย และ “BLACKPINK IN YOUR AREA POP-UP STORE & EXHIBITION” นิทรรศการของ 4 สาววง BLACKPINK ครั้งแรกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นต้น

ไอคอนสยาม ชูแม็กเน็ตดึงทัวริสต์ "Van Gogh Alive" ใหญ่สุดในอาเซียน

ด้านนายเดวิน หม่า ผู้ร่วมก่อตั้ง Live Impact Events กล่าวว่า นิทรรศการ Van Gogh Alive เป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลที่รวบรวมผลงานศิลปะชิ้นสำคัญของจิตรกรชาวดัตช์ Vincent Van Gogh (วินเซนต์ แวนโกะห์) ศิลปินผู้โด่งดังและทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก

จัดแสดงในรูปแบบ Immersive Multi-Sensory Experience ซึ่งได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมกว่า 8.5 ล้านคนใน 80 เมืองทั่วโลก อาทิ ปักกิ่ง, เบอร์ลิน, เดนเวอร์, ลอนดอน, มาดริด, มอสโก, โรม, ซิดนีย์, แฟรงค์เฟิร์ต, นาโกย่า และกัวลาลัมเปอร์ โดยมีกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นสถานที่จัดงานล่าสุด

ทั้งนี้การเลือกจัดงานที่ไอคอนสยาม เพราะมีพื้นที่ขนาดกว้างใหญ่มากถึง 4,120 ตร.ม. และมี Ceiling สูงถึง 6 เมตร สามารถตอบโจทย์และรองรับการจัดแสดงผลงานได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งไอคอนสยาม ยังเป็นเดสติเนชั่นที่สำคัญของไทยซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางหมุนเวียนมาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี นอกจากนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและมีทัศนียภาพที่งดงาม จึงมองว่าไอคอนสยามมีความพร้อมครบทุกด้านในการเป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการระดับโลกในครั้งนี้

ไอคอนสยาม ชูแม็กเน็ตดึงทัวริสต์ "Van Gogh Alive" ใหญ่สุดในอาเซียน

สำหรับนิทรรศการ “Van Gogh Alive Bangkok” จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “I dream my painting, and then I paint my dream” ดื่มด่ำไปกับโลกศิลปะและชีวิตของศิลปินระดับโลก พร้อมสำรวจชีวิต ตีความความคิด ความรู้สึก และสภาพจิตใจของแวนโกะห์ในช่วงปี 1880-1890 ผ่านผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นเอกทั้งภาพเขียน ภาพสเก็ตช์ ภาพพิมพ์ ที่สมบูรณ์ที่สุดรวมจำนวนกว่า 3,000 ภาพ ในรูปแบบดิจิทัลอาร์ตผ่านเทคโนโลยี SENSORY4tm

ซึ่งเป็นการฉายภาพแบบคาไลโดสโคปบนพื้นและผนัง ประกอบเพลงคลาสิคระบบเซอร์ราวด์นอกจากนี้ยังมีห้องจำลองของภาพวาดสุดโด่งดัง “Bedroom of Arles” และ Reality Art Space ให้ผู้ชมได้สัมผัสพร้อมกับเมนูขนมและเครื่องดื่มพิเศษสำหรับงานครั้งนี้ด้วย

“ตั้งแต่ต้นปีพบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน รวมถึงประเทศในแถบเอเชีย และจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้นถึง 30 ล้านคน เป็นสัญญาณบวกแสดงถึงการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ที่ตามมาคือเศรษฐกิจขยายตัว ส่งผลให้แนวโน้มการใช้จ่ายประชาชนคึกคักมากกว่าทุกๆ ปี” นายสุพจน์ กล่าวในตอนท้าย

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,877 วันที่ 9 - 12 เมษายน พ.ศ. 2566