KEY
POINTS
นายยงซอง คิม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (KOTRA Bangkok) องค์กรรัฐภายใต้กระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงาน ของประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ความสำเร็จในการส่งเสริมอาหารเกาหลีให้เป็นวัฒนธรรมกระแสหลักของโลก เกิดจากการผสานจุดแข็งด้านรสชาติ สุขภาพ และวัฒนธรรม ผนวกเอกลักษณ์ภูมิปัญญาดั้งเดิม นำเสนอใหม่ให้เป็นที่สนใจของผู้บริโภค
“หัวใจสำคัญของความสำเร็จอาหารเกาหลี คือการผนวกภูมิปัญญาดั้งเดิมกับนวัตกรรมยุคใหม่ ที่ผสานรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ คุณค่าด้านสุขภาพ และความแข็งแรงของวัฒนธรรมร่วมสมัย อาทิ K-Culture, K-POP และ K-Drama ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาสนใจอาหารเกาหลีมากขึ้นในมิติความอร่อย สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ทันสมัย”
ปัจจุบัน K-Food ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะอาหารหมักอย่างกิมจิและซอสโคชูจัง แต่ขยายไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น อาหารพร้อมรับประทาน ขนม-ของหวาน เครื่องดื่มโปรตีน เครื่องดื่มสมุนไพรหมัก คอลลาเจนโทนิค และอาหาร-เครื่องดื่ม Plant-Based ที่สอดรับกับเมกะเทรนด์สุขภาพ ความงาม และความยั่งยืนของโลก
สำหรับทิศทางการพัฒนาอาหารเกาหลีในระยะต่อไป เกาหลีตั้งเป้าเป็นสัญลักษณ์ “อาหารคุณภาพ-สุขภาพ-นวัตกรรม” โดยเน้น 4 กลุ่มสำคัญ ได้แก่
“อาหารเกาหลีไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมที่เติบโตยั่งยืนได้ในระดับโลก”
ข้อมูลการบริโภคอาหารเกาหลีในประเทศไทยนั้น พบว่า กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มครอบครัวในเมืองใหญ่ มีมุมมองต่ออาหารเกาหลีว่าทันสมัย ช่วยให้สุขภาพดี อยู่ในกระแสนิยม ส่วนข้อมูลจากองค์กรส่งเสริมการค้าและพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าเกษตร ประมงและอาหาร ประเทศเกาหลีใต้, KOTRA กรุงเทพฯ และสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลี พบว่า สินค้าอาหารที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับ ในไทยและอาเซียน ได้แก่
1.บะหมี่และอาหารพร้อมรับประทาน 2.ซอสและเครื่องปรุง เช่น โคชูจัง และซอสต๊อกบกกี 3.เครื่องดื่มสุขภาพ เช่น คอลลาเจน โสม และโปรไบโอติก 4.ขนมและของหวานเกาหลี 5.อาหารหมัก เช่น กิมจิ ส่วนร้านอาหารเกาหลีก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากกระแส K-Culture ด้วยเช่นกัน ทำให้แบรนด์ ร้านอาหารเกาหลีเริ่มขยายสาขาสู่ประเทศไทย อาทิ BHC Chicken หรือ Solsot และร้านอาหารไทยก็มีการเพิ่มเมนูอาหารเกาหลีเพื่อดึงดูดลูกค้า
เพื่อเร่งสร้างระบบนิเวศ K-Food ในอาเซียน เกาหลีได้เลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการจัดงาน “SEOUL FOOD in Bangkok 2025” ระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นครั้งแรกที่งาน Seoul Food ซึ่งเป็น 1 ใน 4 งานอาหารระดับมืออาชีพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นนอกประเทศเกาหลี
โดยงาน SEOUL FOOD in Bangkok 2025 เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “K-Food Innovation: Smart, Healthy & Sustainable” ที่นำเสนอสินค้าและเทคโนโลยีอาหารล้ำสมัยที่สอดรับกับเทรนด์สุขภาพ ความยั่งยืน และความสะดวกสบายในชีวิตสมัยใหม่
ภายในงานประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนธุรกิจและจับคู่เจรจา (Trade & Business Zone) รวมกว่า 150 แบรนด์ และกว่า 1,400 ผลิตภัณฑ์, โซนสาธิตการทำอาหารและโชว์วัฒนธรรม (Cultural & Culinary Showcase) และ โซนบริการให้คำปรึกษาด้านศุลกากร การขึ้นทะเบียน อย. และทรัพย์สินทางปัญญา
นอกจากนี้ภายในงานยังมี พาวิเลียนจากหน่วยงานด้านอุตสาหกรรมอาหารเกาหลี 6 แห่ง อาทิ Foodpolis และสถาบันอุตสาหกรรมอาหารชีวภาพช็อนบุก รวมถึงเมืองสำคัญด้านอาหาร เช่น คังวอน จอนนัม และเชจู เป็นต้น ซึ่ง KOTRA ประเมินว่ามูลค่าการเจรจาธุรกิจในงานจะสูงกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,196 ล้านบาท และจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันความร่วมมือด้านอาหาร-นวัตกรรม-วัฒนธรรมระหว่างไทยและเกาหลีในระยะยาวด้วย
“ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและเกาหลี ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน วัฒนธรรม และประชาชน โดยไทยมีบทบาทสำคัญเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์และตลาดอิทธิพลในอาเซียน ประเทศไทยไม่ใช่แค่ตลาด แต่เป็นประตูสู่ภูมิภาค และเป็นฐานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศ K-Food ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย”