เลี้ยงหมา–แมวแล้วดวงดีขึ้นจริงไหม เปิดเหตุผลที่หลายคนพูดถึง

10 ก.ย. 2568 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2568 | 02:06 น.

ความเชื่อการเลี้ยงหมา–แมวเสริมดวงดีขึ้นเป็นที่พูดถึงมากในสังคมไทย มาร่วมไขปริศนาว่าทำไมความเชื่อนี้ถึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนยังคงเชื่อและพูดถึง

KEY

POINTS

  • ความเชื่อในสังคมไทยและหลายวัฒนธรรมมองว่าการเลี้ยงหมาและแมวช่วยเสริมสิริมงคล นำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าของ
  • แมวบางสายพันธุ์ถูกเชื่อมโยงกับการนำโชคในด้านต่างๆ เช่น วิเชียรมาศช่วยเรื่องการเงินการงาน ขาวมณีนำความสำเร็จและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
  • สุนัขถือเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและโชคลาภ โดยเชื่อว่าการเลี้ยงดูสุนัขอย่างดีจะนำความสุขและความเจริญมาสู่ครอบครัว

ในสังคมไทยและหลายประเทศทั่วโลก การเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ "หมา" และ "แมว" มักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสิริมงคลและนำโชคลาภมาสู่เจ้าของอย่างไม่เคยขาดสาย ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการให้ความรักหรือดูแลสัตว์เพียงเท่านั้น

แต่ยังมีความเชื่อที่เชื่อมโยงสัตว์เลี้ยงเหล่านี้กับการเสริมโชคดีในชีวิต ความเชื่อดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นและความหมายทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง การเลี้ยงหมาและแมวจึงไม่ได้เป็นแค่การมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงกับความเจริญรุ่งเรืองและความโชคดีที่เจ้าของจะได้รับจากการเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี

แมวสัญลักษณ์แห่งโชคลาภในวัฒนธรรมไทยและโลก

ในหลายประเทศ แมวมักถูกมองว่าเป็นสัตว์นำโชคและความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับบ้านและเจ้าของ เริ่มจากแมวพันธุ์ วิเชียรมาศ (Siamese) ที่มีขนสีครีมและจุดสีน้ำตาลเข้ม ถูกเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองในด้านการเงินและการงาน และในวัฒนธรรมไทย แมวพันธุ์นี้ได้รับการยกย่องให้เป็น “แมวแห่งโชคลาภ” อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันดีในประเพณีการขอฝน “แห่นางแมว” ซึ่งจัดขึ้นในภาคอีสานของไทย เพื่อเชื่อมโยงแมวกับความเจริญรุ่งเรืองและการคุ้มครองให้แก่ชุมชน

แมวพันธุ์ ขาวมณี (Khao Manee) ซึ่งมีขนสีขาวและตาสีฟ้าหรือทอง ถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่สามารถนำโชคลาภและความสำเร็จมาสู่เจ้าของ และยังเชื่อว่ามีพลังในการขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้ แมวศุภลักษณ์ (Suphalak) แมวสีทองแดง ก็เป็นที่นิยมในความเชื่อของไทยว่าช่วยเสริมความมั่นคงในชีวิตและการงานให้เจ้าของ มีการเชื่อว่าแมวเหล่านี้จะนำพาความโชคดีในด้านการงาน การเงิน และความสุขในชีวิตครอบครัว

ในอีกมุมหนึ่ง แมวยังมีความสำคัญในความเชื่อที่เชื่อมโยงกับสัญลักษณ์ทางศาสนา ในหลายๆ พื้นที่แมวถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่มีพลังทางจิตวิญญาณ มีบทบาทในการคุ้มครองและรักษาความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะการป้องกันสิ่งชั่วร้ายภายในบ้าน

เลี้ยงหมา–แมวแล้วดวงดีขึ้นจริงไหม เปิดเหตุผลที่หลายคนพูดถึง

สุนัข เพื่อนซื่อสัตย์แห่งโชคลาภ

ไม่เพียงแต่แมวที่ถูกมองว่าเป็นสัตว์นำโชค สุนัขเองก็ได้รับการยกย่องในหลายวัฒนธรรมว่าเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและโชคลาภ การเลี้ยงสุนัขจึงถือเป็นการเสริมความโชคดีให้กับเจ้าของได้อย่างไม่น่าเชื่อ สุนัขพันธุ์ เชาเชา (Chow Chow) ที่มีขนหนานุ่มและลักษณะอ้วนกลมถูกมองว่าเป็นสัตว์นำโชคและความมั่งคั่ง ในขณะที่ สุนัขพันธุ์โชเฟอร์ หรือ พันธุ์ทรอย (Toy Poodle) ก็มีความเชื่อที่เชื่อมโยงกับการนำโชคลาภมาสู่เจ้าของ

ในบางวัฒนธรรม เช่น ประเทศจีนและอินเดีย การเลี้ยงสุนัขที่มีขนสีขาวหรือสีทองมักถูกเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ อาทิ สุนัขที่มีขนสีขาวมักจะสื่อถึงความบริสุทธิ์และความสุข ในขณะที่สุนัขที่เห่าในเวลาที่ไม่คาดคิดอาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการมาถึงของโชคลาภในอนาคต

ในวัฒนธรรมของประเทศไทย การเลี้ยงสุนัขที่มีความภักดีและรักเจ้าของนั้น ก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับครอบครัวและสังคม โดยเฉพาะในบ้านที่สุนัขได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี จะถูกมองว่าเป็นบ้านที่มีความสุขและมีโชคดีตลอดไป

ความเชื่อในสังคมไทยสัตว์เลี้ยงและความมั่นคงในชีวิต

ในสังคมไทย ความเชื่อเรื่องสัตว์เลี้ยงที่นำโชคยังสะท้อนถึงความต้องการที่อยากให้ชีวิตมีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง การเลี้ยงสัตว์เช่นหมาและแมวจึงเป็นมากกว่าแค่การมีเพื่อนที่ซื่อสัตย์หรือเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งคอยสนับสนุนเจ้าของให้มีความสุขและโชคลาภ

โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่มีความกดดันและความไม่แน่นอนในชีวิต การเลี้ยงสัตว์จึงเป็นการหาที่พักใจและยังเชื่อมโยงกับความหวังว่า การให้ความรักและดูแลสัตว์เลี้ยงจะช่วยดึงดูดพลังบวกและเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิต

ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า “การเลี้ยงหมาและแมวจะช่วยเสริมสิริมงคลให้เจ้าของ” เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก และในประเทศไทยเอง การเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ไม่ได้แค่เพียงเป็นการให้ความรักกับสัตว์เลี้ยง

แต่ยังเป็นการส่งเสริมความเชื่อในด้านโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองให้กับเจ้าของอีกด้วย การเลือกเลี้ยงแมวหรือสุนัขที่เหมาะสมกับความเชื่อส่วนตัวของเจ้าของก็ถือเป็นการเสริมพลังบวกให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง ที่มีทั้งความหมายทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณอย่างลึกซึ้ง