อย.ผนึกสอบสวนกลาง รวบอาหารเสริมลดน้ำหนัก 2 แบรนด์ดัง ผสมไซบูทรามีน

27 ธ.ค. 2566 | 11:10 น.

อย. จับมือ ตำรวจสอบสวนกลาง กวาดล้างเครือข่ายผลิต-จำหน่าย อาหารเสริมลดความน้ำหนัก 2 แบรนด์ดังผสมไซบูทรามีน เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด-โรคหลอดเลือดสมอง ขายผ่านออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง 36 รายการ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

27 ธันวาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์  ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์  เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นพ.ณรงค์  อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการ อย. และเภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีทลายเครือข่ายผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนต้องสัยสัยว่า ผสมไซบูทรามีน ตรวจค้น 4 จุด จับกุมผู้ต้องหา  3 ราย ตรวจยึดของกลาง 36 รายการ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

พฤติการณ์กล่าว คือ สืบเนื่องจากปัจจุบัน กระแสผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับลดน้ำหนัก มีความหลากหลาย เป็นที่นิยม และเข้าถึงได้ง่ายในกลุ่มผู้บริโภค โดยอาจเป็นช่องว่างให้ผู้ผลิตลักลอบผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) ไปในผลิตภัณฑ์

เมื่อรับประทานแล้ว อาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ในกรณีผู้มีโรคประจำตัวอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีการเฝ้าระวังกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยตลอด 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและได้รับเรื่องร้องเรียนจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ให้ทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับลดน้ำหนักบนแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงเป็นที่มาของปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักผสมไซบูทรามีน จำนวน 2 ยี่ห้อ ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก, จ.นครนายก, จ.นนทบุรี และ จ.สงขลา รวม 4 จุด ดังนี้

1.เครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ เอส เอส (SS)

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียน ผ่านเว็บไซต์ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน บก.ปคบ. cppd 1135 ให้ทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ เอส เอส (SS) ที่โฆษณาจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊คชื่อ "เกด เกด เกวรีณฐ์" เนื่องจากมีประชาชน รับประทานแล้วเกิดอาการใจสั่น มือสั่น ปวดศีรษะ จึงทำการตรวจสอบพบว่า ยังมีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Lazada และ Shopee

เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อสั่งซื้อและนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1(ไซบูทรามีน) ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับกลุ่มเครือข่ายผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จำนวน 3 ราย ในข้อหา "จำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า" และตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องด้วย

อย.ผนึกสอบสวนกลาง รวบอาหารเสริมลดน้ำหนัก 2 แบรนด์ดัง ผสมไซบูทรามีน

1.1 บริษัทผู้จัดจำหน่าย(เจ้าของผลิตภัณฑ์) ในพื้นที่ ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพิษณุโลก เข้าทำการตรวจค้น พร้อมจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นกรรมการบริษัททั้ง 3 ราย ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ เอส เอส (SS) จำนวนหนึ่ง และกล่องเปล่าซึ่งคาดว่าเตรียมส่งให้โรงงานผลิตจำนวนกว่า 1,000 กล่อง

1.2 ทำการสืบสวนขยายผลไปยังโรงงานผู้ผลิต ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และได้นำหมายค้นของศาลเข้าตรวจค้นโรงงานดังกล่าว ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อเอส เอส(SS) จำนวน 700 กล่อง (7,000 แคปซูล), แคปซูลบรรจุแผง 2,940 แผง (29,400 แคปซูล), กล่องเปล่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร SS จำนวน 1,900 กล่อง, ผงซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำหนัก 25 กิโลกรัม กาแฟฉลากระบุช่วยลดน้ำหนัก 2,700 ซอง, บรรจุภัณฑ์และวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งกำลังดำเนินการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ รวมของกลาง 13 รายการ มูลค่ากว่า 3,000,000 บาท

อย.ผนึกสอบสวนกลาง รวบอาหารเสริมลดน้ำหนัก 2 แบรนด์ดัง ผสมไซบูทรามีน อนึ่ง จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า โรงงานมีการสั่งวัตถุดิบซึ่งใช้ในการผลิต มาจากอำเภอหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินแจ้งข้อกล่าวหา และขยายผลจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดต่อไป

2.เครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ เรฟฟิตมี (Levfitme)

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนประชาชน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ทำการตรวจสอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อ เรฟฟิตมี (Levfitme) ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "ณัฐรินทร์ ธนาธนัตถ์กิตติ์" ( https://www.facebook.com/mookls ) ซึ่งประชาชนผู้ร้องเรียนได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับประทานแล้วเกิดอาการปวดหัว เวียนศีรษะ หัวใจเต้นเรง

อย. ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้จำหน่าย และส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ทำการตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบสถานที่ผลิต บริษัทผู้จัดจำหน่าย และตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง 2 จุดดังนี้

2.1 สถานที่ผลิต บริษัท ลา พรีม ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อ เรฟฟิตมี

ต้องสงสัยว่า ผสมไซบูทรามีน จำนวน 51 กล่อง, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้ออื่นๆที่ฉลากไม่ถูกต้อง จำนวน 130 กล่อง, ผงสารตั้งต้นซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต น้ำหนัก 11 กิโลกรัม และ แคปซูลเปล่า จำนวน 1,000 แคปซูล รวม 15 รายการ

อย.ผนึกสอบสวนกลาง รวบอาหารเสริมลดน้ำหนัก 2 แบรนด์ดัง ผสมไซบูทรามีน

2.2.บริษัทผู้จัดจำหน่าย ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรฟฟิตมี ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อ เรฟฟิตมี

ต้องสงสัยว่า ผสมไซบูทรามีน และมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง (ระบุส่วนประกอบไม่ตรงกับที่ขออนุญาตผลิต) จำนวน 10,305 กล่อง, ผลิตภัณฑ์สบู่และเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ถูกต้อง จำนวน 23,673 ชิ้น รวม 8 รายการ รวมของกลางทั้งสิ้น 23 รายการมูลค่ากว่า 4,000,000 บาท รวมกวาดล้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วน จำนวน 2 ยี่ห้อ ตรวจค้น 4 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย ได้แก่ 

1. นาง เกวรีณฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี

2.นาย กัลปพฤกษ์(สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี

3. นาย เสาร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี 

อย.ผนึกสอบสวนกลาง รวบอาหารเสริมลดน้ำหนัก 2 แบรนด์ดัง ผสมไซบูทรามีน ดำเนินคดีข้อหา "จำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า" ตรวจยึดของกลาง 36 รายการ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบรรจุกล่อง(ต้องสงสัยว่าผสมไซบูทรามีน) จำนวน 751 กล่อง

2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อ เรฟฟิตมี ต้องสงสัยว่าผสมไซบูทรามีน และมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง(ระบุส่วนประกอบไม่ตรงกับที่ขออนุญาตผลิต) จำนวน 10,305 กล่อง

3. แคปซูลบรรจุแผง 2,940 แผง (29,400 แคปซูล)

4. ผงสารตั้งต้นที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต จำนวน 36 กิโลกรัม

5. สบู่ และเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ถูกต้อง จำนวน 23,673 ชิ้น

6. แคปซูลเปล่า ฉลากและบรรจุภัณฑ์กว่า 3,900 ชิ้น 

สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด จะต้องส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปตรวจ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขเพื่อยืนยันอีกครั้ง หากตรวจพบสารต้องห้ามในเสริมอาหาร จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป