สถาบันทันตกรรม บริการทำฟัน 300 ราย ฟรี 20 ต.ค.นี้

19 ต.ค. 2566 | 09:30 น.

สถาบันทันตกรรม ให้บริการทำฟันฟรีแก่ประชาชน 300 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ แนะประชาชนควรสังเกตฟันและดูแลสภาพช่องปาก พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติซึ่งตรงกันวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี สำหรับปี 2566 นี้ กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรม เปิดให้บริการทำฟันฟรีแก่ประชาชน 300 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า 

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ตรงกับวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรม ได้ให้บริการและจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางทันตกรรมแก่ประชาชน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาต่อประชาชนชาวไทย

สถาบันทันตกรรม บริการทำฟันฟรี 300 ราย 20 ตุลาคม 2566

ด้านทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวว่า ทางสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ได้ให้บริการตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟันและขูดหินปูน และให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ประชาชน จำนวน 300 ราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ณ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้ แพทย์หญิงอัมพร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ ได้ย้ำเตือนประชาชนว่า โรคฟันผุซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แบคทีเรียในช่องปาก พฤติกรรมการทานอาหาร การแปรงฟันไม่สะอาด หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามไปถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดการอักเสบ และเชื้ออาจโรคลุกลามไปที่รากฟันและเกิดหนอง เสี่ยงติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่น ๆ 

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์

ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปาก จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ควรสังเกตฟันและสภาพช่องปากของตนเอง ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุกจิก และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

เช่นเดียวกับ ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการฟันผุนั้นเกิดจากกระบวนการทำลายแร่ธาตุของโครงสร้างฟัน โดยมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียที่สร้างกรดขึ้นมาเพื่อย่อยเศษอาหาร โดยเฉพาะประเภทน้ำตาลและแป้งที่ตกค้างภายในช่องปาก

สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และทำความสะอาดภายในช่องปากได้ไม่ดีพอก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการฟันผุตามมาได้ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก ทำความสะอาดฟันให้ถูกวิธี โดยแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคฟันผุได้ 

ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม

ขณะที่ทันตแพทย์หญิงณัฐพจี นรเศรษฐ์ตระกูล ทันตแพทย์ชำนาญการ สาขาทันตกรรมหัตถการ สถาบันทันตกรรม กล่าวถึง โรคฟันผุ สามารถสังเกตได้ด้วยตนเองและแบ่งเป็นระยะของโรคได้ 

ระยะแรก ฟันจะมีสีขาวขุ่นหรือน้ำตาลและผิวฟันไม่เรียบ เมื่อมีการลุกลามมากขึ้นฟันจะเริ่มแตกหรือผุเป็นรู และเมื่อฟันที่ผุเกิดลุกลามจนสูญเสียเนื้อฟันมากขึ้น

การรักษาจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยการตรวจวินิจฉัยนอกจากมองด้วยตาและการใช้เครื่องมือแล้ว ทันตแพทย์จะใช้วิธีการถ่ายภาพรังสีเอกซเรย์ (X-RAY) ซึ่งจะช่วยให้พบฟันผุในตำแหน่งที่ไม่สามารถมองเห็น และยังบอกความลึกของการลุกลามของโรคฟันผุได้ด้วย

ส่วนด้านรักษาทันตแพทย์จะเริ่มจากการกำจัดเนื้อฟันส่วนที่ผุออก แล้วทำการอุดฟันหรือบูรณะฟันในส่วนที่ถูกทำลาย ด้วยวัสดุอุดชนิดต่าง ๆ เช่น อะมัลกัม คอมโพสิต แต่หากผุลึกจนทะลุโพรงประสาทฟันต้องรักษา รากฟัน และหากสูญเสียเนื้อฟันมาก อาจต้องทำการครอบฟันในขั้นต่อไป เพื่อให้ฟันสามารถกลับใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ