"เพื่อไทย"ลั่นชูบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ทุกสิทธิ

25 ก.พ. 2566 | 06:10 น.

นพ.ชลน่านประกาศ ปรับใหญ่ทั้งระบบ ยกระดับ"บัตรทอง"ด้วยบล็อกเชน ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ชูบัตรประชาชนใบเดียวเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพรักษาได้ทุกที่ทุกสิทธิ 

    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในการเสวนาพิเศษในงานดินเนอร์ทอล์ค หัวข้อ "นโยบายไทย:ศูนย์กลางการแพทย์อย่างยั่งยืน" จากเวที THANx Forum 2023 Health & Wellness Sustainability จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ริเริ่มนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือรู้จักในชื่อโครงการ30บาทรักษาทุกโรค ตั้งแต่ครั้งยังเป็นไทยรักไทย เมื่อ 22 ปีที่แล้ว

เป็นยี่ห้อหรือแบรนด์ที่คนทั่วไปรู้ เข้าใจ และจดจำมาได้จนทุกวันนี้ จากที่พรรคได้สัญญาและทำให้เกิดขึ้นเพื่อส่งมอบให้ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาสิทธิการเข้าถึงบริการสุขภาพรัฐ ที่ประชาชนได้รับก่อนหน้านั้นต่ำเตี้ยมาก ทำให้เข้าถึงได้ทั่วถึง เป็นธรรมและมีคุณภาพ 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

 

"เพื่อไทย"ลั่นชูบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ทุกสิทธิ

แต่น่าเสียดายว่า ตลอด 22 ปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ดูแลบริหารนโยบายนี้เพียง 5 ปี  ไม่มีโอกาสพัฒนาเติมเต็มสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่เดิม ทำให้มีหลายสิ่งหลายอย่างแปรปรวนเปลี่ยนแปลงหรือบิดเบี้ยวไป เช่น ความเจ็บปวดของประชาชนผู้เข้ารับบริการที่แออัด รอนาน ไม่ได้รับความสะดวก บริการไม่ดี ผู้คนถึงได้มีคำถามว่าสิทธิของประชาชนอยู่ตรงไหน

จากช่วงแรกที่ให้ช่วยจ่ายเล็กน้อยเป็นค่าธรรมเนียม หรือ "30บาทรักษาทุกโรค" ต่อมาเป็นบริการฟรีในสิทธิบัตรทอง ซึ่งเมื่อฟรีแล้วต้องมีคุณภาพด้วย แต่ที่เห็นคือหลายโรคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคไม่ใช่จากเชื้อ เช่น มะเร็ง มาเป็นอันดับหนึ่ง มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยจากปัญหาสุขภาพจิต ที่้มีถึง 1.5 ล้านราย

"เพื่อไทย"ลั่นชูบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ทุกสิทธิ

 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า หากประชาชนให้โอกาสพรรคได้เข้าไปบริหารนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในอีก 4 ปีข้างหน้านั้น เพื่อไทยต้องการเข้าไปรักษายี่ห้อ จะต้องยกระดับ ปรับ รื้อ ระบบบริหารสาธารณสุขใหม่ทั้งหมดด้วยเทคโนโลยี ทั้งด้านการแพทย์และการสื่อสารที่ก้าวหน้ามาก ใช้บล็อกเชนเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพประชาชนทุกหน่วยบริการได้ทั้งหมด  ให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางเข้าใช้บริการที่ไหนก็ได้ ทุกที่ ทุกสิทธิ ตามที่ต้องการ เพื่อให้บัตรประชาชนใบเดียวเป็นกรมธรรม์ดูแลสุขภาพ 

คุณภาพของระบบบริการสาธารณสุขจะดีขึ้น เนื่องจากไม่ต้องแย่งกันมาต่อแถวเข้าคิว สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ เข้าใช้บริการที่ไหนก็ได้ โดยสถานบริการทุกแห่งสามารถเรียกข้อมูลสุขภาพประชาชนจากที่เก็บบนคลาวด์ เป็นการนำทรัพยากรด้านสาธารณสุขที่มีอยู่ทั่วประเทศทั้งของรัฐและเอกชน ทั้งโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน คลีนิค ร้านยา ห้องแล็บ มาใช้พร้อมกันได้ทั้งหมด ไม่เกิดความสูญเปล่า  

จากนั้นจะได้มุ่งไปดูแลโรคที่เป็นสาเหตุการตายลำดับต้น ๆ เช่น มะเร็ง ที่มีอัตราการตายสูงสุด ซึ่งมะเร็งหลายชนิดหากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ หรือได้รับวัคชีนป้องกันแต่ต้น จะลดอัตราการตายอย่างมีนัยยะ เป็นเรื่องที่ต้องขยายการจัดหาให้ประชาชน ตลอดจนความป่วยไข้ยุคใหม่ กลุ่ม Gen Z ที่มักมีความคิดและตัดสินใจฉับพลันทันใด เป็นโรคซึมเศร้า ต้องจัดการดูแลสุขภาพจิต มีบริการรับปรึกษาโรคทางจิตเวชทางออนไลน์ ส่วนผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องมีคนดูแล

สิ่งเหล่านี้จะเป็นการยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขของประเทศ เมื่อประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีกำลังสามารถประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสร้างงานสร้างราย เป็นกระดูกสันหลังที่เข้มแข็งของประเทศ    

นโยบายปรับรี้อบริการสาธารณสุขใหม่หมดของเพื่อไทยที่เสนอมานี้ มีเป้าหมายสุดท้ายคือ ประชาชนมีสุขภาพดี ประเทศชาติสุขภาพดี มีรายได้ยั่งยืน 22 ปีที่เริ่มต้นจาก30บาทรักษาทุกโรค อะไรที่บกพร่องบิดเบี้ยวไปต้องปรับแก้  เชื่อมั่นว่าเป็นนโยบายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้

"สิ่งสำคัญคือคนที่จะมาดูแลมาบริหารระบบให้เกิดขึ้นได้จริง เพื่อไทยเชื่อมั่นว่าเราทำเป็นและได้ทำมาแล้ว ขอโอกาสให้เพื่อไทยได้เข้าไปทำนโยบายเหล่านี้ เรามั่นใจว่าจะทำให้เรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ทำเรื่อง Health & Wellness ของประเทศให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน ตัดสินใจได้เลยในการเลือกตั้งครั้งนี้นะครับ"นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำส่งท้าย