"เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า"โต้ ชี้กัญชาไทยไร้กม.คุมกลับแบนบุหรี่ไฟฟ้า

10 ม.ค. 2567 | 13:34 น.

"เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า"โต้ ชี้กัญชาไทยไร้กม.คุมกลับแบนบุหรี่ไฟฟ้า หลังกรมควบคุมโรคแจงบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงพฤติกรรมเสพติดกัญชา ตำหนิหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเครือข่ายแพทย์

จากกรณีที่กรมควบคุมโรคแจงบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงพฤติกรรมเสพติดกัญชา ตำหนิหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเครือข่ายแพทย์ควรรื้อตรรกะใหม่ โดยระบุว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่ปล่อยให้กัญชาไร้กฎหมายควบคุม ขายเกลื่อนเมือง แต่กลับแบนบุหรี่ไฟฟ้ายาวนานถึงเก้าปี 

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนจากเพจลาขาดควันยาสูบ เปิดเผยว่า เรื่องของบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชานั้นถูกโยงมานาน โดยมองว่าเป็นเรื่องที่สะท้อนความบิดเบี้ยวของตรรกะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

รวมไปถึงเครือข่ายแพทย์ที่ออกมาโจมตีผู้บริโภคด้วย ซึ่งมองว่าไม่มีประเทศไหนที่จะให้กัญชาขายไร้การควบคุม เปิดหน้าร้านค้าขาย แต่กลับแบนบุหรี่ไฟฟ้ายาวนานเกือบสิบปี
 

ทั้งนี้ หากจะให้ลองคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการใช้กัญชาได้อย่างไร คงต้องย้อนกลับไปเรื่องการแบน เมื่อบุหรี่ไฟฟ้าถูกแบน การซื้อขายจึงเกิดขึ้นผ่านตลาดใต้ดินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งยากที่จะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในมือผู้บริโภคมีมาตรฐานอย่างไร 

"เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า"โต้ ชี้กัญชาไทยไร้กม.คุมกลับแบนบุหรี่ไฟฟ้า

ส่วนประกอบมีอะไรบ้าง อย่างที่เคยออกข่าวว่ามีการระบาดของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคปอด EVALI

อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีดราม่านักร้องดังขอให้หยุดใช้บุหรี่ไฟฟ้าในคอนเสิร์ต ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวเชื่อว่าผู้ใช้ควรให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิผู้อื่นๆ โดยเป็นสิ่งที่ลูกเพจช่วยกันรณรงค์ แต่เมื่อไม่มีกฎหมายมาควบคุม ผลที่ออกมาเลยเป็นอย่างที่เห็น 

ปัจจุบันมีการจัดตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ เพื่อศึกษาถึงประโยชน์ของการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ในฐานะตัวแทนผู้บริโภคก็คาดหวังว่าคณะกรรมการวิสามัญฯนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง และขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มองโลกผ่านความเป็นจริงให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ในปัจจุบันอายุเฉลี่ยของเด็กและเยาวชนที่พบว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นเด็กลงเรื่อยๆ จนแม้กระทั่งเด็กประถมก็ยังถูกพบว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน ซึ่งหาซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางที่หลากหลาย จึงเป็นเรื่องที่ทางเครือข่ายฯดำเนินการเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีอำนาจในหน่วยงานสาธารณสุข และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้ามาดำเนินการเพื่อมอบทางเลือกให้แก่ผู้สูบบุหรี่ไทยกว่า 9.9 ล้านคน รวมถึงคนในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ไร้ซึ่งการควบคุมของรัฐ