เพจ“มนุษย์ควัน”จ่อยื่นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจี้คุมบุหรี่ไฟฟ้าด่วน

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊กและ X (ทวิตเตอร์) มนุษย์ควัน ระบุในโพสต์อ้างอิงจากกรณีที่มีบัญชีผู้ใช้รายหนึ่ง กล่าวถึงประเด็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่าเรื่องดูดพอตนี่มีคนพูดยังเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งข้อความดังกล่าวมีการเข้าชมกว่า 7.8 ล้านครั้ง และได้รับการแชร์ต่อกว่า 5,000 ครั้ง 

นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนับ 800 ราย โดยประเด็นที่เป็นที่กล่าวถึงมีตั้งแต่ประเด็นมารยาททางสังคม การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กวัยรุ่น รวมถึงมีผู้ใช้จำนวนมากตั้งคำถามไปในทำนองเดียวกันว่า การที่บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย สรุปแล้วบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายจริงหรือไม่

"มีการแสดงความคิดเห็นว่ามาฟังเสียงชาว X ถกกันเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ารับปีมังกร โดยคาดว่าน่าจะฟิวส์ขาดหลังงานปีใหม่ เพราะเท่าที่เจอมา ไม่ว่าจะงานเคาท์ดาวน์ไหนก็เจอคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากมายแบบไม่เลือกเวลาและสถานที่ ดังนั้นจึงควรควบคุมให้ชัดเจน จะได้ระบุได้ว่าตรงไหนห้ามสูบ ตรงไหนสูบได้ ไม่อย่างนั้นก็ตีมึนกันไปเรื่อยแบบนี้”

นายสาริษฏ์ยังได้แนบข้อความของผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่น ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวในเรื่องการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่หลายในไทยว่า ผิดกฎหมายแต่คนไทยถ้ามี 60 ล้านคนก็คือดูด 50 ล้านคน ไม่แบ่งแยกอะไรดูดหมดทุกอาชีพ ทุกวัย ทุกเพศ ไม่เลือกดารา นักร้อง คนธรรมดา สรุปแล้วผิดกฎหมายจริงหรือไม่

นอกจากนี้ผู้ใช้ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกฎหมายการแบนบุหรี่ไฟฟ้าระบุว่า คนไทยมองเรื่องแบบนี้ปกติแล้วหรือ เพราะกฎหมายมันไม่แข็งแรงรึเปล่า ละเลยกันจนคิดว่าไม่ผิดทั้งที่มันผิดหรือไม่ 

นายสาริษฏ์ กล่าวอีกว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นความปกติใหม่ของสังคมไทย ที่แม้ทุกคนทราบดีแก่ใจว่ายังผิดกฎหมายอยู่ และไม่ควรมีการใช้อย่างแพร่หลายเช่นนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ที่กลายเป็นเรื่องปกติของสังคมแล้ว 

และการไม่มีกฎหมายควบคุมอย่างในปัจจุบัน ทำให้เกิดแต่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของมารยาทการใช้งานในที่สาธารณะ จนทำให้เกิดการตั้งคำถามและวิพากวิจารณ์ถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกันอย่างแพร่หลาย จึงควรเป็นการบ้านสำหรับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ บุหรี่ไฟฟ้า ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปอย่างเร่งด่วน โดยทางเพจ จะยื่นหนังสือเพื่อขอเข้าไปร่วมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ภายในสัปดาห์นี้