ศธ.คลอดแผนป้องกันฝุ่น PM 2.5 หากกระทบหนักให้ “ปิดโรงเรียน” ได้

03 ก.พ. 2566 | 07:53 น.

กระทรวงศึกษาธิการ คลอดแผนป้องกันแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค หากพบคุณภาพอากาศแย่ผลกระทบต่อสุขภาพ ให้พิจารณาเปิด - ปิดโรงเรียนได้

สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) กำลังเป็นปัญหาน่าห่วงกระทบต่อสุขภาพสำหรับประเทศไทย หลังจากนายกรัฐมนตรี สั่งการด่วนให้รับมือ พร้อมประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด และยกระดับมาตรการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 18 มกราคม 2566 เรื่อง มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา PM 2.5

ส่วนกลาง : ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่กองส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 

ส่วนภูมิภาค : ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสถานศึกษาประสบภัยพิบัติกระทรวงศึกษาการจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานเพื่อฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการ เพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติ ทั้งมาตรการเร่งด่วน และมาตรการระยะยาว

 

ภาพประกอบข่าว มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในโรงเรียน

พิจารณาเปิด - ปิดสถานศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งศูนย์ประสานงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานและสถานศึกษาในจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อม และดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด 

หน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน และสถานศึกษา ติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบคุณภาพอากาศประเทศไทยทางเว็บไซต์ air4thai หรือแอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ เป็นประจำทุกวัน หากพบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ให้พิจารณาเปิด - ปิดสถานศึกษา ต่อไป

ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558

 

ภาพประกอบข่าว มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในโรงเรียน

กำหนดแผนรับมือ PM 2.5

หน่วยงานและสถานศึกษา เตรียมความพร้อมในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM 2.5 โดยหน่วยงานและสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ แยกเป็นกลุ่มสีต่าง ๆ ดังนี้

1. พื้นที่โซน สีฟ้า

  • ให้จัดกิจกรรมทำความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียนอย่างสม่ำเสมอ
  • ให้ทำกิจกรรมได้ตามปกติ

2.พื้นที่โซน สีเขียว

  • ให้จัดกิจกรรมทำความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียนอย่างสม่ำเสมอ
  • ให้ทำกิจกรรมได้ตามปกติ
  • นักเรียน นักศึกษา ที่ป่วยด้วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ให้พิจารณาลดการเรียนพลศึกษาและกิจกรรมกลางแจ้ง 

3.พื้นที่โซน สีเหลือง

  • ให้จัดกิจกรรมทำความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียนอย่างสม่ำเสมอ
  • ให้ลดการทำกิจกรรมนอกอาคาร
  • นักเรียน นักศึกษา ที่ป่วยด้วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ให้พิจารณายกเว้นการเรียนพลศึกษาและกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ผู้บริหาร ครู อาจารย์ สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเอง แก่นักเรียน นักศึกษาทุกเช้า และสังเกตอาการนักเรียน นักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรงให้พบแพทย์ทันที 
  • หน่วยงานและสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐาน

 

ภาพประกอบข่าว มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในโรงเรียน

 

4.พื้นที่โซน สีส้ม

  • นักเรียน นักศึกษา ผู้บริหาร ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ ในกรณีที่สถานศึกษามีหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ ให้ประสานกับศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสถานศึกษาประสบภัยพิบัติ ศึกษาธิการจังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุน
  • ควรเรียนในชั้นเรียน สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อาจได้รับการพิจารณายกเลิก
  • เด็กเล็ก ให้เรียนในห้องเรียนที่จัดเป็นห้องเรียนปลอดฝุ่น เข้าแถวในชั้นเรียน ยกเลิกการออกกำลังกายกลางแจ้ง สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อาจได้รับการพิจารณายกเลิกตามความเหมาะสม 
  • นักเรียน นักศึกษา ที่ป่วยด้วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ควรให้อยู่ภายในอาคารในห้องปลอดฝุ่น งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง และต้องได้รับการดูแลจากครู อย่างใกล้ชิด
  • ผู้บริหาร ครู อาจารย์ สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเอง แก่นักเรียน นักศึกษาทุกเช้า/บ่าย และสังเกตอาการนักเรียน นักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากมีอาการรุนแรงให้พบแพทย์ทันที 

 

ภาพประกอบข่าว มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในโรงเรียน

 

5.พื้นที่โซน สีแดง

  • นักเรียน นักศึกษาทุกคน ควรอยู่ในอาคาร หรือห้องเรียน และปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด 
  • ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธง และการออกกำลังกาย กลางแจ้ง นักเรียน นักศึกษาสามารถออกมาพักในช่วงพักระหว่างคาบเรียนหรือพักกลางวันได้ แต่ไม่ควรอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
  • เด็กเล็ก และนักเรียน นักศึกษา ที่ป่วยด้วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ ควรอยู่ภายในอาคาร หรือห้องเรียนที่มีประตูและหน้าต่างปิดสนิทหรือห้องปลอดฝุ่น ที่มีเครื่องปรับอากาศ/เครื่องฟอกอากาศ งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้ง และต้องได้รับการดูแลจากครูอย่างใกล้ชิด
  • ผู้บริหาร ครู อาจารย์ สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียน นักศึกษาทุกเช้า เที่ยง บ่าย และสังเกตอาการนักเรียน นักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากมีอาการรุนแรง ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • พิจารณา เปิด - ปิดสถานศึกษา ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิด สถานศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558