ผวา! พบไวรัสโฮบริดชนิดใหม่ครั้งแรกของโลก อันตรายแค่ไหน อ่านเลย

29 ต.ค. 2565 | 01:40 น.

ผวา! พบไวรัสโฮบริดชนิดใหม่ครั้งแรกของโลก อันตรายแค่ไหน อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยห่วงโควิดหลอมรวมกับไวรัสอื่นได้จะยุ่งยากมากขึ้น

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ครั้งแรกของโลก พบว่าไวรัส 2 ชนิดหลอมรวมกันเองตามธรรมชาติ คือไข้หวัดใหญ่และ RSV กลายเป็นไวรัสไฮบริดชนิดใหม่ อาจก่อโรคที่รุนแรงขึ้นได้

 

เป็นที่ทราบกันดีว่า มีโอกาสที่มนุษย์จะติดเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจพร้อมกันสองชนิดได้ จากรายงานการศึกษาพบได้ประมาณ 10-30%

 

แต่มักจะมีผลรายงานที่แตกต่างกันว่า บางรายงานพบอาการของโรคไม่ได้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่บางรายงานก็พบว่ามีอาการปอดอักเสบที่รุนแรงเพิ่มขึ้น

 

นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามศึกษาวิจัย เพื่อหาข้อมูลการทำงานของไวรัสสองชนิดที่ติดเชื้อพร้อมกันในระดับเซลล์

 

แล้วก็พบเป็นครั้งแรกว่า ไวรัสสองชนิดเกิดหลอมรวมตัวกันเองได้ (Fused) คือไวรัสก่อโรคไข้หวัดใหญ่ (IAV : Influenza A Virus) และไวรัสที่ก่อโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็ก (RSV : Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสชนิดใหม่ที่เรียกว่าไฮบริด (Hybrid)

IAV ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่ และมีผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลถึงปีละ 5 ล้านคน

 

ส่วน RSV เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อในปอดของเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ และมีอาการป่วยรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ทั้งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

 

แม้ในปัจจุบันเราจะทราบว่า มนุษย์สามารถติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจสองชนิดพร้อมกันได้ แต่เรายังไม่มีรายละเอียดมากพอ โดยเฉพาะพฤติกรรมของไวรัสต่อการติดเชื้อในระดับเซลล์มาก่อน

 

Dr.J.Haney จากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) เป็นหัวหน้าทีมการศึกษาวิจัยครั้งนี้

 

ได้ทำการทดลองโดยใช้เซลล์ปอดของมนุษย์ นำมาเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ แล้วใส่ไวรัสสองชนิดคือ IAV และ RSV เข้าไป

 

ภาพขยายไวรัสตัวใหม่ของโลก

 

ผลออกมาเป็นที่น่าตื่นเต้นมากคือไวรัสทั้งสองชนิดนั้นหลอมรวมกันได้ เกิดเป็นไวรัสตัวใหม่ มีรูปร่างแบบต้นปาล์ม โดย RSV เป็นส่วนลำต้น และ IAV เป็นส่วนใบ

 

ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ค้นพบไวรัสหลอมรวมกันหรือไฮบริดกันได้ในระดับเซลล์ และได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารการแพทย์คือ Nature Microbiology

 

ผลที่ตามมาและน่ากังวลคือ ไวรัสใหม่นี้ มีความสามารถในการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แม้กระทั่งในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว

กล่าวคือไวรัสใหม่ จะใช้ส่วนของ RSV ที่คนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน เกาะและพาตัวเองเข้าไปในเซลล์มนุษย์ได้สำเร็จ

 

ในขณะเดียวกันก็พาไวรัสไข้หวัดใหญ่ (IAV) เข้าไปด้วย ทั้งที่โดยลำพังแล้ว ไวรัสไข้หวัดใหญ่ตัวเดียวจะเข้าไปในเซลล์มนุษย์ที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้หวัดใหญ่แล้วไม่ได้

 

เปรียบเสมือนม้าโทรจัน (Trojan Horse) ที่นำกองทหารเข้าไปโจมตีในเมืองของข้าศึก โดยที่ข้าศึกไม่รู้ตัว

 

ก็เช่นเดียวกับไวรัสไฮบริด ที่ไวรัส RSV สามารถนำไวรัสก่อโรคไข้หวัดใหญ่ (IAV) เข้าไปในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้หวัดใหญ่ได้

 

Dr.S. Griffin นักไวรัสวิทยาของมหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) เชื่อว่าเป็นไปได้ที่ไวรัสใหม่นี้ จะทำให้ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นได้

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการค้นพบในระดับเซลล์ของห้องปฏิบัติการ จึงจำเป็นจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ความเชื่อดังกล่าวต่อไป

 

ที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปคือ นอกจากไวรัสสองตัวนี้จะหลอมรวมกันได้แล้ว ไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆจะหลอมรวมกันอีกได้หรือไม่

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-19 เพราะถ้าหลอมรวมกับไวรัสอื่นได้ด้วย ก็อาจจะทำให้วัคซีนป้องกันโควิดได้ผลลดลงมากขึ้นไปอีก แล้วก็จะยุ่งยากมากขึ้น อาจจะมากกว่าการที่ไวรัสก่อโรคโควิดกลายพันธุ์ตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่แล้วด้วยซ้ำไป