โอมิครอน BA.2.75 จ่อยึดครองโลกต่อจาก BA.5 น่ากลัวแค่ไหน อ่านเลย

22 ส.ค. 2565 | 03:30 น.

โอมิครอน BA.2.75 จ่อยึดครองโลกต่อจาก BA.5 น่ากลัวแค่ไหน อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระเผยข้อมูลจาก Prof.Tom Wenseleers ประเทศเบลเยี่ยม

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ

 

อัพเดตแนวโน้มการระบาด

 

ข้อมูลจาก Prof.Tom Wenseleers ประเทศเบลเยี่ยม วิเคราะห์แนวโน้มการระบาดของหลายประเทศทั่วโลก 

 

ชี้ให้เห็นว่า Omicron (โอมิครอน) สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 น่าจะเบียด BA.5 ที่ครองการระบาดขณะนี้ได้ในช่วงหลายเดือนถัดจากนี้ไป 

 

ในขณะที่สายพันธุ์ย่อยที่เป็นลูกของ BA.5 อย่าง BA.5.2.1.7 นั้นพบมากขึ้นในบางประเทศ แต่ยังไม่เป็นที่น่ากังวล

 

Long COVID (ลองโควิด) ในประเทศลักเซมเบิร์ก

Fischer A และคณะ จากลักเซมเบิร์ก ได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ Open Forum Infectious Diseases เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

 

โดยทำการสำรวจเพื่อประเมินภาวะ Long COVID และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ณ 12 เดือนหลังจากติดเชื้อ

 

สาระสำคัญ พบว่า โดยรวมแล้วพบว่ามีคนที่ประสบอาการผิดปกติอย่างน้อย 1 อาการ 

 

โอมิครอน BA.2.75 จ่อยึดครองโลกต่อจาก BA.5

 

สูงถึงเกือบ 60% ทั้งนี้หากเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ พบว่าประสบปัญหาราวหนึ่งในสาม 

 

แต่กลุ่มที่ติดเชื้อแล้วป่วยปานกลางหรือรุนแรงจะมีโอกาสเกิดปัญหามากกว่า

 

ที่น่าสนใจคือ ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ (Poor sleep) นั้นพบบ่อยถึง 54.2% 

โดยพบได้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อทุกกลุ่มอาการ ไม่ว่าจะไม่มีอาการ (38.6%) 

 

อาการน้อย (54.1%) อาการปานกลาง หรืออาการมาก (63.8%)

 

แม้กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาอาจไม่มากนัก แต่เป็นข้อมูลที่ย้ำเตือนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19

 

การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด