วันเอดส์โลก กรมควบคุมโรค เร่งรณรงค์คนไทย รอบรู้สิทธิ-ป้องกันรอบด้าน

01 ธ.ค. 2568 | 04:30 น.

วันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 68 กรมควบคุมโรคร่วมรณรงค์คนไทย รอบรู้สิทธิ ป้องกันรอบด้าน เข้าถึงบริการตรวจรักษา HIV ได้ทุกคน เดินหน้าสู่เป้าหมายลดผู้ติดเชื้อรายใหม่เหลือไม่เกิน 1 พันคนต่อปี หยุดการตีตรา สร้างสังคมที่เข้าถึงบริการได้เท่าเทียม

1 ธันวาคม 2568 นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคเอดส์ ส่งเสริมให้สังคมเข้าใจ ยอมรับและอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างไม่ตีตรา

ในปี 2568 กำหนดแนวคิดภายใต้หัวข้อ "Overcoming disruption, transforming the AIDS response: ก้าวข้ามวิกฤต พลิกโฉมงานเอดส์" เพื่อสะท้อนถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนงานด้านเอชไอวี ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เทคโนโลยี และพฤติกรรมทางเพศที่เปลี่ยนแปลงไป

พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นกำลังหลักที่จะกำหนดทิศทางและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของสังคมไทย มีส่วนร่วมในการสื่อสารและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลความรู้และบริการสุขภาพด้านเอชไอวีอย่างครอบคลุม

สำหรับสถานการณ์เอชไอวีของประเทศไทยในปี 2567 คาดว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 565,598 คน ผู้เสียชีวิต 9,067 คน และผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,124 คน โดยกว่าร้อยละ 96 ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งสร้างความตระหนักรู้และเสริมทักษะการป้องกันให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม

นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์มณเฑียร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรคร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เดินหน้าขับเคลื่อนงานเอชไอวี/เอดส์เชิงรุก เชื่อมสู่ระบบบริการที่เข้าถึงง่าย และมุ่งสร้างความเข้าใจให้ประชาชน รอบรู้เรื่องสิทธิ ป้องกันรอบด้าน โดยมีบริการสำคัญ ดังนี้

1. ป้องกันฟรี โดยขอรับถุงยางอนามัย ที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐ องค์กรภาคประชาสังคม ร้านขายยา หรือผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง รวมถึงเพร็พ (PrEP) หรือยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ได้ที่หน่วยบริการสุขภาพที่ร่วมจัดบริการกับ สปสช. และเป๊ป (PEP) หรือยาป้องกันหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง

 

2. ตรวจฟรี ปีละ 2 ครั้ง ได้ที่โรงพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วประเทศ หรือรับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV self-test) ได้ที่หน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. หน่วยบริการภาคประชาสังคม หรือผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

3. รักษาฟรี ด้วยยาต้านเอชไอวีแบบรวมเม็ด (ARV) ตั้งแต่วันที่ทราบผลการติดเชื้อ หากกินยาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะช่วยลดปริมาณไวรัสในเลือดให้ต่ำกว่า 200 copies/ml หรืออยู่ในระดับที่ตรวจไม่พบเชื้อ และไม่ถ่ายทอดเชื้อให้ผู้อื่น เพื่อลดโอกาสการเจ็บป่วยด้วยโรคแทรกซ้อน มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ประเทศไทยพร้อมก้าวข้ามข้อจำกัด ปรับตัวให้เท่าทันต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มุ่งสู่เป้าหมาย "ไม่ติด - ไม่ตาย - ไม่ตีตรา" เพื่อลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เหลือไม่เกิน 1,000 รายต่อปี ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ให้เหลือไม่เกิน 4,000 รายต่อปี และลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับเอชไอวีและเพศภาวะให้เหลือไม่เกินร้อยละ 10 ภายในปี 2573 พร้อมมุ่งสร้างสังคมที่สนับสนุนสุขภาพดีอย่างยั่งยืนสำหรับประชาชนทุกคน