สธ.ปูพรมส่งแพทย์ทุกสาขา ลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่-ใกล้เคียง

30 พ.ย. 2568 | 08:37 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2568 | 08:39 น.

กรมการแพทย์ สาธารณสุข ส่งบุคลากรเฉพาะทางหลากหลายสาขา ดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

KEY

POINTS

  • กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาจากส่วนกลางและจังหวัดต่างๆ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง
  • มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 8 แห่ง เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน และช่วยลดภาระของโรงพยาบาลหลักที่ได้รับผลกระทบ
  • มีการนำรถบริการทางการแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่มาให้บริการด้วย เช่น รถฟอกไตสำหรับผู้ป่วยโรคไต และรถพระราชทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข นำโดยนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง  โดยมีบุคลากรจากกรมการแพทย์มาปฏิบัติงานเพิ่มเติมสับเปลี่ยนหมุนเวียน

กระทรวงสาธารณสุขได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รวม 8 แห่ง เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน โดยได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ดูแลโรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์และหน่วยงานต่าง ๆ โดยปัจจุบันให้บริการผู้ป่วยเคสสีเหลืองได้ประมาณ 50 เตียง และ สามารถขยายบริการเพิ่มได้ถึง 200 เตียงหากมีความจำเป็น

เพื่อช่วยลดภาระโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และ โรงพยาบาลหาดใหญ่ซึ่งอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวหลังถูกน้ำท่วม รวมทั้งดูแลผู้ที่อพยพในศูนย์พักพิงกว่า 7,000 คน อีกด้วย ซึ่งกรมการแพทย์และภาคีเครือข่ายได้จัดส่งบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขาจากโรงพยาบาลในสังกัดกรมที่อยู่ในส่วนกลางและในจังหวัดต่างๆหมุนเวียนสับเปลี่ยนร่วมปฏิบัติงาน

โดยมีหน่วยงานสังกัดกรมในพื้นที่ร่วมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนด้วย ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี โรงพยาบาลโรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง โรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี และ โรงพยาบาลในกรุงเทพฯปริมณฑล รวมทั้งโรงพยาบาลในสังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขอีกหลายแห่ง

สธ.ปูพรมส่งแพทย์ทุกสาขา ลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่-ใกล้เคียง

นอกจากนี้ยังมีการส่งบุคลากรร่วมปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสนาม สนามบินหาดใหญ่ พร้อมทั้งยังได้ส่งรถฟอกไตเคลื่อนที่จากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีให้บริการผู้ป่วยโรคไตที่โรงพยาบาลสนาม สนามบินหาดใหญ่ และรถพระราชทานเคลื่อนที่จากโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานีให้บริการประชาชนที่โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย

ด้านนายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่กรมการแพทย์รับผิดชอบดูแลมีองค์ประกอบหลายส่วน ประกอบด้วยจุดรับลงทะเบียน เป็นการทำเอกสารชื่อ-นามสกุลผู้รับบริการในเบื้องต้น จุดคัดกรอง เป็นการซักประวัติ อาการเบื้องต้น วัดสัญญาณชีพ วัดความดันโลหิต อุณหภูมิร่างกาย อัตราการหายใจ และคัดแยกระดับอาการของผู้ป่วย

สธ.ปูพรมส่งแพทย์ทุกสาขา ลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่-ใกล้เคียง

รวมถึงส่งต่อไปผู้ป่วยไปจุดบริการสีต่างๆ ได้แก่ เขียว เหลือง แดง ถ้าเป็นสีเหลืองหรือแดงจะส่งไปที่ ER สนาม แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยสีเขียวจะส่งพบแพทย์และรักษาลักษณะผู้ป่วยนอก OPD จุดพบแพทย์ แพทย์ก็จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรค เพื่อทำการรักษาและรับยาได้อย่างถูกต้อง จุดรับยา เป็นการแจกจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ และหากมีความจำเป็นต้องทำแผลก็มีการให้บริการทำแผลสำหรับผู้ป่วยด้วย

เช่นกัน จุด ER สนาม ดูแลผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉิน ซึ่งดูแลโดยทีม MERT โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หากจำเป็นต้องมีการส่งต่อจะสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้ทันที จุดบริการคนไข้ใน IPD ของโรงพยาบาลสนาม ประกอบด้วยทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น ให้บริการคนไข้สีเหลืองที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้และต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอนุญาตให้ญาติดูแลได้ 1 คน

ทั้งนี้หากผู้ป่วยในมีอาการดีขึ้นแล้วเหลือเพียงอาการเล็กน้อย สามารรับรับยาต่อเนื่อง จะมีการส่งตัวผู้ป่วยไปยัง  Home ward โดยจะเป็นการให้พยาบาลติดตามอาการและรายงานแพทย์เป็นเวลา 2 ครั้ง  (เช้าและเย็น) หากมีอาการที่ดีขึ้นจนหายเป็นปกติแล้ว สามารถส่งคนไข้กลับบ้านหรือศูนย์พักพิงต่อไปได้

สธ.ปูพรมส่งแพทย์ทุกสาขา ลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่-ใกล้เคียง

แต่หากมีอาการแย่ลงก็จะส่งคนไข้กลับมายังจุดบริการคนไข้ใน เพื่อทำการรักษาอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นการแบ่งเบาภาระบุคลากรในพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วที่สุด