ต้อนรับเทศกาลกินเจ 2568 โดยปีนี้กำหนดในช่วงวันที่ 20 - 29 ตุลาคม 2568 ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนนิยมงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจตามความเชื่อทางศาสนาซึ่งในมุมมองของการแพทย์แผนไทยฯ แล้ว
การกินเจยังมีคุณค่าทางสุขภาพเพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับสมดุลธาตุในร่างกายด้วย โดยเฉพาะการเลือกอาหารเจตามธาตุเจ้าเรือน
ดร.รัชนี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า การเลือกอาหารเจตามธาตุเจ้าเรือนนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตามแนวคิดที่ว่า "อาหาร คือ ยา" เพราะอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นส่งผลให้ธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ เกิดความสมดุลของร่างกาย
สำหรับเมนูอาหารเจที่แนะนำตามธาตุเจ้าเรือน เสริมสมดุลสุขภาพร่างกายจากภายใน ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยแบ่งธาตุเจ้าเรือนออกเป็น 4 ธาตุหลักตามช่วงเดือนเกิด ดังนี้
1. ธาตุไฟ (ผู้ที่เกิดเดือน ม.ค.–มี.ค.)
มักมีอาการร้อนใน สิว ผิวอักเสบ อารมณ์แปรปรวน แนะนำอาหารรสขม เย็น จืด จากวัตถุดิบ เช่น ขี้เหล็ก มะระ และแตงกวา
2. ธาตุลม (ผู้ที่เกิดเดือน เม.ย.–มิ.ย.)
มีแนวโน้มท้องอืด ปวดเมื่อย วิงเวียนศีรษะ ควรเน้นรสเผ็ดร้อนพอประมาณจากสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ เมนูแนะนำ ได้แก่
3. ธาตุน้ำ (ผู้ที่เกิดเดือน ก.ค.–ก.ย.)
มักมีอาการเป็นหวัด เจ็บคอ มีเสมหะ ควรรับประทานอาหารรสเปรี้ยว ขมพอประมาณ เช่น มะนาว มะขามป้อม มะระ ดอกแค เมนูแนะนำ เช่น
4. ธาตุดิน (ผู้ที่เกิดเดือน ต.ค.–ธ.ค.)
โดยทั่วไปคนธาตุดินมักจะแข็งแรงดี ยกเว้นผู้มีโรคประจำตัว แนะนำอาหารรสฝาด หวาน มัน เค็มพอประมาณ จากฟักทอง เผือก ถั่วต่าง ๆ เมนูแนะนำ เช่น
ทั้งนี้ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลเจแต่ประชาชนไม่ควรละเลยหลักโภชนาการที่ดี ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และควรหลีกเลี่ยงอาหารเจบางประเภทที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ของทอด อาหารที่มีไขมันสูง การรับประทานอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป และอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเกินไปซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไขมันในเลือดสูงและโรคเรื้อรังอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
"เทศกาลกินเจไม่ใช่เพียงการละเว้นเนื้อสัตว์ แต่ยังเป็นโอกาสเริ่มต้นการดูแลสุขภาพตนเองอย่างจริงจังโดยใช้ภูมิปัญญาไทยควบคู่กับความรู้ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจอย่างยั่งยืนได้" ดร.รัชนี ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวทิ้งท้าย