4 วิธีดูแลสุขภาพหญิงวัยทองด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

01 ส.ค. 2568 | 20:00 น.

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยเคล็ดลับ 4 วิธีดูแลสุขภาพสตรีวัยทองตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยเพื่อการมีสุขภาพที่ดี ช่วยลดอาการต่าง ๆ ช่วงวัยหมดประจำเดือน ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก

การดูแลสุขภาพสตรีไทยโดยเฉพาะช่วง "วัยทอง" ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาครั้งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงทุกคน เนื่องในวันสตรีไทยปีนี้ ดร.รัชนี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากให้ได้ลองนำไปปรับประยุทธ์ใช้กันดู

ดร.รัชนี ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย ระบุว่า นอกจากแนวทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว การแพทย์แผนไทยยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงวัยทองเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้หญิงในวัยนี้ โดยใช้ 4 แนวทาง ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย คือ 

1. การใช้ตำรับยาสมุนไพร

แนะนำ ยาลูกแปลกแม่ เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงเลือดลม กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ยาบำรุงโลหิต สรรพคุณ บำรุงโลหิต เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ยาหอมเทพจิตร สรรพคุณ บรรเทาอาการหน้ามืด ตาลาย อาการที่รู้สึกใจหวิว วิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่าจะเป็นลม 

2.การนวดไทยและประคบสมุนไพร

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผ่อนคลายลดความเครียด กระตุ้นการไหลเวียน 

3.การอบสมุนไพร

  • ช่วยให้สดชื่น ผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น
  • จากการศึกษายังพบว่า การอบสมุนไพรช่วยลดปัญหาการนอนไม่หลับในหญิงวัยทองได้  

4 วิธีดูแลสุขภาพหญิงวัยทองด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

4. การปรับพฤติกรรมและอาหาร ได้แก่ รับประทานอาหาร กลุ่มที่ช่วยปรับฮอร์โมน ตัวอย่างเช่น  

น้ำมะพร้าว : จะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ให้มีความสมดุลมากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จึงช่วยชะลอความแก่ทำให้ผิวพรรณสดใสอ่อนเยาว์ ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน

ถั่วเหลือง : สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับในวัยทองได้ เนื่องจากมีสารไอโซฟลาโวน ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ และนอนไม่หลับที่เกิดจากภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล 

นอกจากนี้ การออกกำลังกาย นับเป็นสิ่งสำคัญได้แนะนำการบริหารร่างกายแบบไทย ด้วย ท่าฤาษีดัดตน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและสร้างความสมดุลของร่างกายและจิตใจ เช่น

  • ท่าชูหัตถ์วาดหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังและไหล่
  • ท่าแก้เกียจ ช่วยยืดกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่
  • ท่าแก้เข่าขัด ช่วยลดอาการปวดและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า
  • ท่านวดบริเวณกล้ามเนื้อใบหน้า 7 ท่า ช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าและกระตุ้นการไหลเวียนบริเวณใบหน้า เป็นต้น