21 พฤษภาคม 68 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ร่วมกันแถลงข่าวการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 และการตรวจจับการลักลอบส่งออกกัญชา
นายสมศักดิ์ แถลงว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้รับข้อมูลเรื่องการลักลอบขนส่งกัญชาไปต่างประเทศ ผ่านช่องทางสนามบินทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ในฐานะที่ตนอยู่ใกล้ชิดกับงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแก้ไขปัญหามากที่สุด ได้รับบัญชาจากรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกกัญชา โดยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ส่วนกรรมการ มี อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร หรือผู้แทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ กัญชาได้ถูกนำออกจากประเทศไทยและทำให้ประเทศที่มีผลกระทบอย่าง เช่น อังกฤษ อินเดีย ปากีสถาน ฮ่องกงและอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ดังนั้น เราจะดำเนินการสกัดกันอย่างไร วันนี้ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาลักลอบส่งออกกัญชามาร่วมกันแถลงข่าวในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เราได้ดำเนินการจับกุมกัญชาได้ปริมาณมากพอสมควร เช่น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จับกุมได้ 3 ราย ของกลาง 73 กิโลกรัม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับ พ.ร.บ.ควบคุมสมุนไพร กำหนดว่า กัญชาสามารถส่งออกได้แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง หากไม่ขออนุญาตจะนำส่งนำออกไป มีโทษทั้งจำและปรับ ในอดีตอาจจะยังไม่มีข่าวสารมากอาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เราปปล่อยปล แต่ข้อเท็จจริงเราดำเนินการตลอดเวลา
ขณะนี้แสดงให้เห็นว่า เราดำเนินการบูรณาการควบคุมการส่งออก และจะพัฒนาระเบียบกฎเกณฑ์การใช้กัญชาในประเทศไทย เช่น การสูบ ต่อไปอาจจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยที่มาใช้กัญชาต้องมีใบรับรองแพทย์
"ขอเรียนให้ทราบว่า เราบูรณาการและขอเตือนผู้ที่คิดลักลอบส่งออกกัญชาโดยที่ไม่ขออนุญาตให้ชัดเจนก็มีโอกาสถูกจองจำ และประกาศให้ทราบตั้งแต่วันนี้ไปว่าจะเข้มข้นอย่างเต็มที่ ในอดีตอาจจะมีเล็ดลอดออกไปบ้าง"
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับมาตรการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีกัญชาเป็นยาเสพติดแต่หลังจากปฏิรูปกฎหมายใหม่ รวบรวมกฎหมาย 30 ฉบับมาเป็นฉบับเดียว เรียกว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติด กัญชาหลุดจากยาเสพติดประเภท5 ขณะนี้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมเหมือนเป็นยาเสพติดอ่อน ๆ ตนเป็นผู้นำเสนอกฎหมายควบคุมเป็นพืชกัญชาจะใช้เวลานานจะไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เราจะควบคุมเรื่องการสูบ
ผมจะใช้การควบคุมเป็นสมุนไพรเข้มข้น โดยกฎหมายคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ควบคุมและออกกฎหมายรองให้เสร็จภายในไม่เกิน 40 วัน เพราะกฎหมายสามารถจบได้ที่คณะรัฐมนตรี หรือที่ตัวรัฐมนตรีเอง ผ่านการประชุมคณะกรรมการแต่ละชุดให้มีขั้นตอนทางกฎหมายจะทำให้ในทางปฏิบัติการเข้าถึงกัญชายากขึ้นแต่ยอมให้เข้าถึงได้ในเรื่องการแพทย์ ถ้ามีใบรับรองแพทย์จะเข้าถึงได้ เรื่องการสูบให้เดือดร้อนรำคาญก็จะถูกควบคุมโดยกฎหมายอื่น เราจะบังคับหรือดำเนินการให้ส่วนราชการใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ปล่อยให้หลุดเป็นปัญหา
"พ.ร.บ.กัญชาก็เดินไปแต่ไม่สามารถเร่งได้เพราะมีหลายองคาพยพหลายขั้นตอน มองดูแล้วประมาณ 2 ปีกว่าจะเสร็จ จากนั้นต้องออกกฎหมายรองมารองรับและออกระเบียบมาใช้บังคับอีกจะไม่ทันเวลา ฉะนั้น เราออกมาเป็นร่างประกาศกระทรวง สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ…ควบคุมใช้ก่อน
ส่วนพ.ร.บ.ก็ตามมาถ้ายังไม่พอใจทำให้เป็นยาเสพติด ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการเมือง ถ้าผมทำได้ จบไปหลายเดือนแล้ จึงถอยมาเป็นกฎหมาย ให้เป็นสมุนไพรควบคุมดีกว่า เมื่อกฎหมายจบ สมุนไพรควบคุมก็หมดอายุการใช้งาน ขณะนี้กรมการแพทย์ไทยรวบรวมทั้งหมด อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นแต่คนอยากให้ควบคุมออกมาแสดงความรู้สึกกน้อย ส่วนคนอยากให้สันทนาการออกมาเยอะ คนรับหน้าก็เหนื่อย นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นางสาวปวีณา กล่าวว่า ทอท. ยินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย เบื้องต้นได้มีจุดตรวจค้น ตรวจจับได้ขั้นต้น ได้เทรนด์ผู้ดำเนินการตรวจค้นตามมาตรฐาน ต้นปีที่ผ่านมาดำเนินการจริงจรังตรวจจับได้หลายร้อยกิโลกรัม กำลังหารือว่า จะมี K 9 เข้ามาเพิ่มเติม เทคโนโลยีเครื่องเอ็กซเรย์มีจำกัด อาจเล็ดลอดบ้าง ประเทศที่สนใจ คือ อินเดีย ปลายทางประเทศอังกฤษ จับได้ขนกัญชาไปจำนวนมาก มาตรการคุมเข้มนี้จะสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยและทำให้คนไทยเดินทางไปต่างประเทศจะได้รับการอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมด้วย
ด้านนายแพทย์สมฤกษ์ กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ ดำเนินการกำกับการใช้กัญชาจะให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าเป็นการรักษาทางการแพทย์ ส่วนการขายจากเดิมที่ให้บันทึกว่า ขายใคร อย่างไร ต่อไปอาจจะต้องมีใบรับรองแพทย์กำกับผู้ที่เป็นโรคลมชักโรค ปวดศีรษะ หรืออาการปวดต่าง ๆ นอนไม่หลับ เป็นต้น
นอกจากนี้อาจต้องกำหนดปริมาณการใช้ เช่น ถ้า 1 เดือนต้องใช้จำนวนเท่าใด ถ้ามากเกิน 1 เดือนแสดงว่า ไม่ใช่ทางการแพทย์ก็จะถูกดำเนินคดี ส่วนข้อหาลหุโทษจะหารือว่า จำคุกได้หรือไม่ ที่ผ่านมายังไม่มีใครถูกจำคุก
ด้านนายรัศม์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศมาร่วมเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นบูรณาการแก้ไขปัญหานี้ ปัจจุบันได้รับรายงานว่า มีการจับกุมชาวต่างชาติที่นำกัญชาออกจากประเทศไทย เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งจะต้องดำเนินงานร่วมกันทุกหน่วยงาน กระทรวงการต่างประเทศ พยายามหาทางแก้ไข ทั้งนำเข้าและส่งออก
ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาและสั่งการกรมการกงสุล สถานทูต สถานกงสุลทุกแห่งทั่วโลก ชี้แจงและประชาสัมพันธ์โทษในการนำกัญชาออกไปต่างประเทศจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงจากผู้จำหน่ายว่าสามารถนำกัญชาได้