เฮ ร่าง พ.ร.บ.อสม. เข้าสภาฯ “สมศักดิ์” ลุ้นประกาศใช้ทันปี 68

16 พ.ค. 2568 | 04:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ค. 2568 | 04:38 น.

รัฐบาลส่งร่าง พ.ร.บ.อสม. ถึงสภาผู้แทนฯ แล้ว หลัง รมต.สธ. เดินหน้าผลักดันให้เป็นกฎหมายภายในปี 2568 หวังสร้างขวัญกำลังใจและสวัสดิการแก่ชาวอสม. กว่า 1 ล้านคน

รัฐบาลได้ส่งร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้ว หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มุ่งมั่นผลักดันให้ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติและประกาศใช้ให้ทันภายในปีนี้

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... ไปยังประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2568 พร้อมทั้งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย เอกสารการรับฟังความคิดเห็น และแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง

เฮ ร่าง พ.ร.บ.อสม. เข้าสภาฯ “สมศักดิ์” ลุ้นประกาศใช้ทันปี 68

"ต้องติดตามผลการพิจารณาของวิปรัฐบาลที่จะประสานกับประธานสภาผู้แทนฯ เพื่อให้มีการบรรจุระเบียบวาระและการพิจารณาของสภาผู้แทนฯ รวมทั้งวุฒิสภาต่อไป"

ทั้งนี้นายสมศักดิ์มีนโยบายและเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะสร้างขวัญกำลังใจและสวัสดิการแก่อสม. ให้ได้รับการรับรองสถานภาพและสิทธิประโยชน์อย่างเหมาะสม ในฐานะผู้ที่เสียสละทำงานเป็นด่านหน้าในการดูแลสุขภาพประชาชน

"วิกฤตโควิดระบาดเมื่อปี 2563-2565 เป็นบทพิสูจน์ว่า ประเทศไทยผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายมาได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอสม.ได้เข้ามาช่วย"

เฮ ร่าง พ.ร.บ.อสม. เข้าสภาฯ “สมศักดิ์” ลุ้นประกาศใช้ทันปี 68

ปัจจุบันมีอสม.ทั้งสิ้น 1,090,163 คน หากกฎหมายผ่านสภาฯ และประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว จะไม่ต้องอาศัยระเบียบอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอีกต่อไป โดยร่างกฎหมายนี้นอกจากจะกำหนดสวัสดิการต่างๆ ยังปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอสม.

นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความมุ่งมั่นที่จะประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้กระบวนการทางสภาได้พิจารณาตามขั้นตอน โดยจะพยายามให้ร่างกฎหมายนี้ประกาศใช้เป็นกฎหมายให้ทันภายในปี 2568 เพราะตระหนักดีว่า ชาวอสม.และครอบครัวญาติพี่น้องรวมแล้วเป็นสิบล้านคนกำลังเฝ้ารอกฎหมายฉบับนี้