ครม. อนุมัติ 168 ล้าน สร้างศูนย์แพทยศาสตร์ฯ รพ.ระยอง รองรับ EEC

13 พ.ค. 2568 | 06:55 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2568 | 07:05 น.

ครม. อนุมัติวงเงินกว่า 168 ล้านบาทก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 9 ชั้น โรงพยาบาลระยอง จ.ระยอง ในพื้นที่ EEC มีพื้นที่ใช้สอยประมาณกว่า 8.8 พันตารางเมตร

13 พฤษภาคม 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง ก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 9 ชั้น เป็นอาคาร คสล. 9  ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,810 ตารางเมตร โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง 1 หลัง วงเงิน 168.55 ล้านบาท

นายคารม กล่าวว่า โรงพยาบาลระยอง เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ขนาด 600 เตียง อยู่ในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มีบทบาทหน้าที่ในการให้บริการด้านสุขภาพ อนามัย และเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายของประชากรที่จะเข้ามาทำงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) จึงมีแผนการดำเนินงานเปิดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยตระหนักถึงความสำคัญและปัญหาความต้องการบุคลากรด้านสาธารณสุขเพื่อให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง

ภายใต้การดำเนินงานของวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีแผนการเปิดการเรียนการสอน ชั้นปีที่ 4-6 (ชั้นคลินิก) แต่ยังขาดอาคารสถานที่ในการเรียนการสอน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โรงพยาบาลระยองจึงขอใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 9 ชั้น เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 8,810 ตารางเมตร โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง 1 หลัง 

นายคารม กล่าวต่อว่า สำนักงบประมาณ (สงป.) เห็นชอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ) ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 9 ชั้น เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 8,810 ตารางเมตร โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง 1 หลัง ในวงเงิน 168.55 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินบำรุงโรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ ขอให้ สป.สธ. ดำเนินการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2562 และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญและต่อรองราคาจนถึงที่สุดด้วย