รู้จัก โควิด-19 สายพันธุ์ XEC กำลังระบาดในไทย เช็กอาการ วิธีรับมือ

13 พ.ค. 2568 | 05:30 น.

เปิดข้อมูลโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC ลูกผสมโควิดตัวใหม่แพร่ระบาดใน 27 ประเทศ รวมถึงไทย กลุ่มเสี่ยง 608 ต้องระวัง เช็กอาการสำคัญและวิธีป้องกัน 

สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย ยังคงต้องระมัดระวังดูแลสุขภาพกันต่อเนื่อง จากข้อมูลล่าสุด ระบุว่า โควิดที่ระบาดในปี 2568 ส่วนใหญ่เป็นโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC ซึ่งมีอาการไม่รุนแรงแต่มีการแพร่ระบาดรวดเร็วและกลุ่มเสี่ยงยังต้องระมัดระวัง

จากข้อมูลกรมควบคุมโรคเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยโควิด 19 โดยรวมสะสม 41,197 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย โดยถือว่า มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามคาดการณ์เนื่องจากโรคโควิด 19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น ที่สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้เตือนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวให้ระมัดระวังและป้องกันตัวเองเพราะหากป่วยเสี่ยงเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากสงสัยว่า จะติดโควิดควรตรวจด้วย ATK ในเบื้องต้นก่อน 

ข้อมูลของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และองค์กรสาธารณสุขของอังกฤษ (NHS) ได้สรุปอาการโควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC เอาไว้ดังนี้ 

โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC คืออะไร

XEC คือ โควิด-19 สายพันธุ์ลูกผสมตัวใหม่ในตระกูลโอมิครอน พบครั้งแรกที่เยอรมนี มิ.ย. 2567 เกิดจากการรวมกันของ 2 สายพันธุ์ย่อย คือ KS.1.1 (FLiRT) และ KP.3.3 (FLuQE) แพร่เร็วขึ้นจากการกลายพันธุ์หลายจุด พบแล้วในอย่างน้อย 15 ประเทศ รวมถึงยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย มีการถอดรหัสพันธุกรรมแล้วกว่า 550 ตัวอย่างจาก 27 ประเทศ

จากข้อมูลในสหรัฐฯ อังกฤษ และจีน ระบุว่า XEC แพร่เร็วกว่าโอมิครอนตัวอื่นถึง 84–110% บางประเทศมี XEC มากถึง 10–20% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่

อาการของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC   

  • ไข้ ไอ เจ็บคอ
  • เหนื่อยง่าย ปวดหัว ปวดตัว
  • คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • สูญเสียการรับกลิ่น/รส
  • เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน

การป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC  

  • ฉีดวัคซีนและเข็มกระตุ้น
  • สวมหน้ากากในที่แออัด
  • ล้างมือบ่อย ๆ
  • เว้นระยะห่าง
  • แยกตัวเมื่อมีอาการ