KEY
POINTS
ดร.ภก.จตุพล เจริญกิจไพบูลย์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (GPO) กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการผลิต จำหน่าย และบริการยาและเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการสำรองยาที่มีความจำเป็นต่อระบบสาธารณสุข จึงมีนโยบายร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน จัดโครงการการบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลโดยองค์การเภสัชกรรม (GPO in Hospital)
เพื่อการบริหารจัดการต้นทุนและการบริหารคลังด้านยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดลำพูน โดยได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงาน พบว่า ขอบเขตการจัดซื้อจัดหาและบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ เป็นไปตามแผนประมาณการความต้องการยาและเวชภัณฑ์ในบัญชียาหลักแห่งชาติของโรงพยาบาลในจังหวัดลำพูน ตามที่องค์การเภสัชกรรมกำหนดไว้
”GPO เราวางแผนขยายโครงการไปยังพื้นที่ที่ GPO มีคลังสินค้าสาขาอยู่แล้ว ได้แก่ ภาคเหนือ (เชียงใหม่), ภาคอีสาน (อุดรธานี) และ ภาคใต้ (หาดใหญ่)พื้นที่เป้าหมายถัดไป จะเข้าไปนำเสนอโครงการที่จังหวัดหนองคาย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2569 หรือ 2570 เนื่องจากต้องใช้เวลาเตรียมการและทำสัญญาประมาณ 5-6 เดือน”
ภก.ปีฐพล รัตนจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า โครงการ GPO in Hospital เป็นโครงการการบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล (GPO in Hospital) องค์การเภสัชกรรมดำเนินงานจะเป็นผู้จัดซื้อ จัดหาและสำรองคงคลัง พร้อมทั้งขนส่งยา รายการยาและเวชภัณฑ์ที่องค์การเภสัชกรรมผลิตและจำหน่ายเอง และรายการยาและเวชภัณฑ์ที่จำหน่ายโดยผู้จำหน่ายรายอื่นๆ ในประเทศ
เริ่มต้นดำเนินงานที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร โดยมีคลังยาและเวชภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2567 ถึงปัจจุบัน รูปแบบงานเป็นโครงการเรียนรู้ จึงวัดผลลัพธ์ โรงพยาบาลลด stock คงคลังจาก 1.5 เดือน เป็น Stock พร้อมใช้ สั่งทุก 7 วัน
อีกทั้งลดภาระงานบริหารการจัดซื้อ และลดมูลค่าการสำรองยาและเวชภัณฑ์ในคลังต่อปีได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีการดำเนินงานโครงการดังกล่าวต่อเนื่องมายังสสจ. ลำพูน โดยบริหารคลังที่องค์การเภสัชกรรมสาขาภาคเหนือ จำหน่ายให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดลำพูนทุกแห่งในปีงบประมาณ 2569
ภก.สาธิต เจริญพงษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดลำพูนมีทั้งหมด 8 โรงพยาบาล โดยมีโรงพยาบาลทั่วไป 1 โรงพยาบาล และ โรงพยาบาลชุมชน 7 โรงพยาบาล ได้เตรียมการอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนโครงการ GPO in Hospital โดยมีการวางแผนการดำเนินการร่วมกันกับองค์การเภสัชกรรม มาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2568 มีกำหนดรายการยา จัดทำแผนประมาณการจัดซื้อยาร่วมกัน เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมเข้ามาบริหารจัดการ
ทั้งรายการยาที่องค์การเภสัชกรรมผลิตเองและรายการจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดขั้นตอนและภาระงานด้านการบริหารการจัดซื้อและสำรองคงคลังลงได้ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้โรงพยาบาลในสังกัดสามารถบริหารจัดการต้นทุนด้านยาและเวชภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับการดูแลผู้ป่วยของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อๆไป
ด้าน นพ.คะนอง ถนอมสัตย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโฮ่ง กล่าวว่า โรงพยาบาลบ้านโฮ่งได้เริ่มดำเนินการบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล หรือ “GPO in hospital” กับองค์การฯมาตั้แต่เดือนพฤศจิกายน 2568 โดยองค์การฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ การบริหารจัดการรายการยาตามบัญชียาของโรงพยาบาล จำนวน 128 รายการ
ทั้งส่วนที่เป็นรายการยาที่องค์การฯผลิต และรายการยาที่องค์การฯ จัดหามาเพื่อจำหน่าย ครอบคลุมประมาณร้อยละ 40 ของรายการยาในบัญชียาของโรงพยาบาล คาดว่าทางโรงพยาบาลฯ จะสามารถลดคงคลังของการสำรองยาจาก 1.5 เดือนให้ลดลงเหลือไม่เกิน 1 เดือน
เวชภัณฑ์ยาจะหมุนเวียนเร็วทำให้ไม่มีรายการยาที่เสี่ยงต่อการหมดอายุและสูญเสียงบประมาณ ใช้ระยะเวลาในการรอคอยสินค้าลดลงจากเดิม มียาสำรองที่พร้อมใช้และมีคุณภาพสูง ตลอดจนเพิ่มความสะดวก ลดภาระงานในส่วนของระบบริหารเวชภัณฑ์ด้านยาของโรงพยาบาล