ผู้ป่วยบัตรทอง ชายแดนไทย-กัมพูชา รับบริการทุกแห่งได้ทันที ไม่ต้องยืนยันสิทธิ

09 ธ.ค. 2568 | 07:00 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2568 | 07:03 น.

สปสช. สนับสนุนหน่วยบริการสุขภาพ-ปชช.ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปรับแนวทางสนับสนุนการให้บริการ ยกเว้นเงื่อนไขให้ปิดสิทธิหรือยืนยันตัวตนหลังรับบริการได้เพื่อให้หน่วยบริการสามารถดำเนินงานได้สะดวก และปชช.เข้าถึงบริการสุขภาพได้โดยไม่สะดุด

KEY

POINTS

  • สปสช.ออกมาตรการฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ป่วยบัตรทองใน 6 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ
  • ผู้มีสิทธิบัตรทองในพื้นที่ดังกล่าวสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้ที่หน่วยบริการทุกแห่ง ทั้งในและนอกจังหวัด โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
  • ผ่อนปรนเงื่อนไข โดยผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการได้ทันทีก่อน แล้วจึงยืนยันตัวตนหรือปิดสิทธิหลังรับบริการในกรณีฉุกเฉินและจำเป็น

จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุดที่ต้องเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดทั้งในภาคอีสานและภาคตะวันออก (ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, สระแก้ว, ตราด) ออกจากพื้นที่ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรับบริการและให้บริการสาธารณสุข

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า  สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี ได้รายงานว่า ในพื้นที่บริเวณชายแดนมีผู้ป่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และล้างไตทางช่องท้อง ในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.อุบลราชธานี (อ.น้ำยืน อ.นาจะหลวย อ.น้ำขุ่น) ได้รับผลกระทบแล้ว 310 ราย

ขณะนี้โรงพยาบาลต้นสังกัดได้ประสานส่งต่อไปยังศูนย์ฟอกไตต่างๆ เพื่อให้การดูแลแล้ว ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่เสี่ยง 4 อำเภอ มีผู้ป่วยฟอกไตที่ได้รับผลกระทบแล้ว 627 ราย อยู่ระหว่างการรับย้ายผู้ป่วยไปยังหน่วยฟอกไต 19 แห่ง

ขณะที่ สปสช. เขต 9 นครราชสีมา ได้รายงานว่า มีผู้ป่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ที่โรงพยาบาลละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้รับผลกระทบ 80 คน

เบื้องต้นโรงพยาบาลต้นสังกัดได้ประสานให้ย้ายไปฟอกเลือดที่โรงพยาบาลนางรอง 25 คน  โรงพยาบาลหนองกี่ 41 คน โรงพยาบาลพุทไธสง 2 คน และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ 2 คน ส่วนโรงพยาบาลปราสาท จ.สุรินทร์ มีการย้ายเครื่องฟอกเลือด บุคลากร และผู้ป่วย ไปให้บริการต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์แล้ว  

ขณะเดียวกันในพื้นที่ประสบภัยยังพบอุปสรรคการให้บริการผู้ป่วยในอีกหลายด้าน เช่น การย้ายหรือส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาหน่วยบริการอื่น, การให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินที่ไม่ได้ปิดสิทธิหรือยืนยันตัวตนหลังรับบริการ การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนอกเวลาทำการ และการส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในหน่วยบริการอื่น ฯลฯ  

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการ และสร้างความมั่นใจให้หน่วยบริการว่าจะได้รับการชดเชยค่าบริการตามผลงานที่ให้บริการ

ล่าสุด สปสช. ได้ยกเว้นเงื่อนไขการประมวลผลการจ่ายค่าบริการสาธารณสุขในภาวะวิกฤตฉุกเฉินในเขตพื้นที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 

พื้นที่ สปสช.เขต 9 นครราชสีมา

ให้หน่วยบริการใน จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ สามารถยืนยันตัวตนและปิดสิทธิหลังรับบริการ ขณะที่การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หากเกินศักยภาพก็ให้บริการนอกเวลาทำการได้

พื้นที่ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี

หน่วยบริการใน จ.ศรีษะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ยกเว้นให้ปิดสิทธิหลังรับบริการได้ ทั้งอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน เหตุจำเป็น OP Anywhere และฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม สามารถให้บริการนอกเวลาทำการกรณีเกินศักยภาพอีกทั้งยังประสานขอความร่วมมือหน่วยบริการในพื้นที่ให้ประชาชนเข้ารับบริการได้ทุกแห่ง และประสานงานขอรับน้ำยาล้างไตส่งด่วน ให้กับผู้ป่วย CAPD ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ด้วย

แนวทางการเข้ารับบริการ

กรณีผู้มีสิทธิบัตรทองไม่สามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการประจำได้ เนื่องจากหน่วยบริการปิดหรือต้องอพยพ สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการอื่นได้ทั้งในและนอกจังหวัด โดยหน่วยบริการที่ให้การรักษาสามารถเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการได้ตามหลักเกณฑ์

การให้บริการด้านยาและเวชภัณฑ์ ตามประกาศ สปสช. เกี่ยวกับการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ในกรณีของผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาต่อเนื่องและมีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนยาตามความเหมาะสม ให้หน่วยบริการสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาตามข้อตกลงในระดับพื้นที่ได้

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช.

การดูแลผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม

กรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องฟอกเลือด หากต้องไปรับบริการฟอกไตในพื้นที่ปลอดภัย หน่วยบริการฟอกไตที่รองรับสามารถเพิ่มจำนวนการให้บริการเกินกว่าที่ สปสช. กำหนดได้ โดยแจ้งข้อมูลศักยภาพการให้บริการไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณา

นอกจากนี้ยังมีการผ่อนผันกติกาเป็นกรณีพิเศษสำหรับเครื่องฟอกไต กรณีย้ายเครื่องฟอกไตไปสมทบที่หน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อให้บริการผู้ป่วยเพิ่มเติมจากที่ได้ลงทะเบียนกับ สปสช.ไว้ สามารถดำเนินการได้ โดยให้ประสานไปยัง สปสช.เขตแต่ละพื้นที่ เพื่อดำเนินการ 

ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงสิทธิบัตรทอง ที่ไม่สามารถเข้ารับบริการตามแผนงานฯ การดูแลรายบุคคลเดิมภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการอื่น โดยให้หน่วยบริการรับค่าใช้จ่ายฯ จากสำนักงานฯ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในแต่ละประเภทบริการที่เข้ารับการดูแลรักษา ในแต่ละประเภทบริการ

การประสานงานและการสนับสนุน โดย อปท. สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการหรือกิจกรรมในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้ โดยถือเป็นกรณีภัยพิบัติตามความจำเป็น รวมถึงการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ การสนับสนุนผ้าอ้อมและแผ่นรองซับขับถ่าย โดยเป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ฯ กปท. 

การแสดงตนยืนยันสิทธิเมื่อสิ้นสุดการรับบริการ

ให้หน่วยบริการใช้วิธีการยืนยันตัวตนโดยคำนึงถึงความสะดวกและความจำเป็นของผู้รับบริการ หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการได้ ให้แจ้งเหตุความไม่สะดวกในการดำเนินการเป็นรายกรณี สำหรับการติดต่อประสานงาน สามารถติดต่อผ่าน สปสช. เขต หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดได้