เปิดวิชัน ‘วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ’ CEO “นำวิวัฒน์ฯ” ดันเครื่องมือแพทย์ไทยสู่ Global Market

06 ธ.ค. 2568 | 19:42 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ธ.ค. 2568 | 19:49 น.

“วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ” ทายาทรุ่น 3 “นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น” หรือ NAM เปิดโรดแมป 3-5 ปี ก้าวขึ้นเป็น Regional Brand พร้อมเติบโตสู่ Global Market เร่งขยายพอร์ตโฟลิโอ 3 กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เดินหน้าการผลิตครบวงจร

KEY

POINTS

  • บริษัท "นำวิวัฒน์ฯ" ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านการฆ่าเชื้อของไทย กำลังขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกภายใต้การนำของ CEO "วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ"
  • ชูจุดเด่นด้านราคาที่เข้าถึงได้แต่คุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานยุโรป เพื่อวางตำแหน่งเป็น "ทางเลือกใหม่" ในตลาดโลก แตกต่างจากคู่แข่งในเอเชีย
  • ตั้งเป้าหมายเป็น “Regional Brand for Global Market” โดยมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศเป็นหลักภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ผ่านการขยายเครือข่ายและการลงทุนอย่างจริงจัง

จากธุรกิจครอบครัวที่ดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานกว่า 55 ปี ของ “นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น” (NAM) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์สัญชาติไทย ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ การทำความสะอาดและการนึ่งฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ กำลังก้าวเข้าสู่ Global Market ท่ามกลางความท้าทายของกระแสธุรกิจ Healthcare ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ทายาทรุ่น 3 ที่นำทัพขับเคลื่อนธุรกิจของนำวิวัฒน์ไปสู่ตลาดโลก ในฐานะ Regional Brand ของคนไทย

“วิโรจน์” เล่าว่า จุดเริ่มต้นของนำวิวัฒน์ฯ มาจากคุณปู่ที่เป็นช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ การฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ต่อมาเริ่มปรับเปลี่ยนสู่การผลิตเครื่องมือแพทย์เครื่องแรก เป็นเครื่องขนาดเล็กและขายให้กับแผนกจุลชีววิทยา โรงพยาบาลศิริราช หลังจากนั้นจึงขยายธุรกิจ จากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ทำความสะอาดอุปกรณ์การแพทย์ครบวงจร ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เสมือนหลังบ้านของโรงพยาบาลที่ขาดไม่ได้

การบริหารงานเต็มตัวในช่วงแรก สิ่งที่มุ่งเน้นไม่ใช่ยอดขาย แต่เป็นการสร้างมาตรฐานให้กับบริษัท ด้วยการปรับปรุงโรงงาน นำระบบ ISO และมาตรฐานในระดับสากลเข้ามาใช้ พร้อมกับการ Re-engineering ผลิตภัณฑ์ให้ดูทันสมัยขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในต่างประเทศ พร้อมวางรากฐานให้บริษัทสามารถขยายความหลากหลายของสินค้าได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันนำวิวัฒน์มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้เองในประเทศราว 320 SKU โดยเน้นผลิตภัณฑ์หลักด้าน การนึ่งฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ (Disinfection and Sterilization) แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าสำคัญ 3 อันดับแรกคือ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ, เครื่องล้างอุปกรณ์ทางการแพทย์, และเครื่องอบฆ่าเชื้อ ทุกอย่างมีความสำคัญต่อการรักษาพยาบาลโดยตรง เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วยส่วนใหญ่ 80-90% ต้องถูกนำกลับมาล้าง ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และนำไปใช้ซ้ำ

กระบวนการเหล่านี้ทำให้ตลาดและฐานลูกค้าของนำวิวัฒน์แข็งแกร่ง รายได้ของบริษัทกว่า 96% มาจากกลุ่มโรงพยาบาลทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ถือเป็นผู้นำตลาดของประเทศไทย และอาจเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านการฆ่าเชื้อแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวในประเทศไทยด้วย

“วิโรจน์” บอกว่า โครงสร้างสาธารณสุขไทยคือตัวเร่งการเติบโตของตลาด แต่ไทยยังนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศมากถึง 80% ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของผู้ผลิตไทยในการผลิตสินค้าทดแทนการนำเข้า ซึ่งนำวิวัฒน์เล็งเห็นโอกาสและได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งจดสิทธิบัตรและบัญชีนวัตกรรมของตนเอง 100% ประยุกต์ใช้ทั้งเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมต่างๆ มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ที่สามารถลดขั้นตอนการทำงานและตอบโจทย์ความรวดเร็วของระบบโรงพยาบาลได้

“สัดส่วนการเติบโตของนำวิวัฒน์อยู่ใประเทศเป็นหลักเกือบ 100% ภายหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว จึงเริ่มขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศอย่างจริงจัง เริ่มที่ตุรกีและร่วมออกบูธจัดแสดงสินค้าในประเทศเยอรมนีซึ่งได้รับผลตอบรับดี รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาระบบสาธารณสุขเช่นเดียวกับประเทศไทยในอดีต และตอนนี้นำวิวัฒน์ก็กำลังสร้างเครือข่ายการกระจายสินค้าและการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในต่างประเทศอย่างชัดเจน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย”

ทั้งนี้ ตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) ของนำวิวัฒน์จะเน้นการเป็นทางเลือกใหม่ในตลาดโลก ด้วยจุดเด่นคือ “ราคาเข้าถึงได้ แต่คุณภาพเทียบเท่ากับมาตรฐานยุโรป” ซึ่งแตกต่างจากผู้เล่นเอเชียรายใหญ่ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีที่มีราคาสูง โดยกลยุทธ์หลักของนำวิวัฒน์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า คือการมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายเป็น “Regional Brand for Global Market”

อย่างไรก็ตาม นำวิวัฒน์ (NAM) มี 5 บริษัทในเครือ ซึ่งมาจากการ M&A และร่วมทุน รายได้รวมปี 2567 ที่ผ่านมารวม 1,100 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ไว้ประมาณ 1,700 ล้านบาท และระยะ 3-5 ปีในอนาคตได้ตั้งเป้าการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการทำ M&A และการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อให้บริษัทสามารถขยายสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ตามเป้าหมาย