KEY
POINTS
นายวรพงษ์ สุรชัยกุลวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส แผนก Supply Chain Management หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการยาชีววัตถุ วัคซีน และยากลุ่มเฉพาะทาง ซึ่งต้องใช้ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (cold chain) ที่มีประสิทธิภาพสูงในการจัดส่งเพิ่มมากขึ้น
DKSH ในฐานะผู้นำด้านการยกระดับห่วงโซ่อุปทานด้านสาธารณสุข ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Healthcare) ได้มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายซัพพลายเชนให้มีความทันสมัย สนับสนุนพันธกิจในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ผ่านการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และระบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ A-Frame เข้ามาบริหารจัดการสินค้า
ส่งผลให้ DKSH ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการจัดส่ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพถึงมือผู้รับอย่างถูกต้องและตรงเวลา นอกจากนี้ ยังช่วยให้พันธมิตรของ DKSH ขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจโดยไม่กระทบต่อมาตรฐาน ความปลอดภัย หรือคุณภาพ นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของ DKSH ในการพัฒนาโลจิสติกส์ด้านสุขภาพให้พร้อมรับอนาคตทั่วภูมิภาคเอเชีย
“การพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้า A-Frame เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในระบบอัตโนมัติ ของศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชรของ DKSH นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี “D-Pack” ระบบบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดการใช้พลาสติก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่บรรทุกสินค้า”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี “ReSnap” แพลตฟอร์มตรวจสอบสินค้าหลังจัดส่ง ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสินค้า โดยส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ทางอีเมล ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาตรวจสอบสินค้าด้วยตนเองในคลังได้
นายวรพงษ์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าอัตโนมัติ A-Frame อยู่ที่ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชรของ DKSH ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือหลัก และกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กระจายสินค้าด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร ดำเนินงานตามมาตรฐานสากล
สามารถรองรับสินค้ากว่า 35,000 รายการ (SKU) และจัดส่งกล่องสินค้ากว่า 7.5 แสนกล่องต่อเดือน โดยระบบ A-Frame ได้รับการออกแบบให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อจำนวนมากได้พร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถจ่ายสินค้าให้กับหลายคำสั่งซื้อได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ DKSH ยังมีศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์ (MDDC) และศูนย์กระจายสินค้าคลังศรีวรินทร์ (SVDC) ศูนย์กระจายสินค้าทั้งสามแห่งช่วยให้ DKSH สามารถ ให้บริการได้ทั่วประเทศ ครอบคลุมโรงพยาบาล คลินิกร้านขายยา และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกว่า 40,000 แห่ง เป็นกำลังสำคัญในการส่งมอบยาสำคัญและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ืให้เข้าถึงได้อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ
การลงทุนครั้งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกว่า 40% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ DKSH ในการยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและสนับสนุนการเติบโตของพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานด้านสาธารณสุขในประเทศไทยสอดคล้องกับเป้าหมายของ DKSH ในการสร้างระบบจัดส่งผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่ยั่งยืน สนับสนุนการเติบโตของลูกค้า
ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ด้านสุขภาพชั้นนำของอาเซียน เป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจและร่วมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพของประเทศไทย ผ่านโซลูชันที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ เสริมบทบาทของประเทศในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาค